สวัสดีเพื่อนๆชาว lookbook ทุกคนนะคะ ปิดเทอมหน้าฝนแบบนี้คงจะหยุดยาวว่างชนิดที่ว่าไม่รู้จะว่างยังกันแล้วใช่มั้ยล้า ลองออกไปพักร้อน พักสายตาหาที่เที่ยวให้คุ้มกับปิดเทอมที่แสนจะยาวนานกันดีกว่า
ด้วยความที่อ่านกระทู้พันทิปละอยากไปที่นี่ม๊ากมากกกก ก็ตามอ่านมันทุกกระทู้อีแฟนบอกว่าเนี่ยไปกางเต็นท์กัน เดี๋ยวๆกางเต็นท์ที่ทะเลนี่นะ ตื่นมาจะลอยอยุ่กลางทะเลมั้ยเนี่ย 5555555 เราสองคนเลยเลือกไปวันธรรมดา เพราะเดาว่าคนไม่น่าจะเยอะ
การเดินทางเราขึ้นรถกันที่อนุสาวรีย์ ตรงใกล้ๆบีทีเอส จะมีป้ายเขียนว่าไประยองบ้านเพ หะบ้านแพ? บ้านเพ! ราคา 200 บาทส่วนลงตรงไหนนี่ยังไม่รู้ 5555 ขนาดศึกษาข้อมูลมา พอมาจริงๆละก็ยังมึนๆ ต้องเปิดจีพีเอสไปตลอดทาง
นั่งอ่านหนังสือไปสองตลบหลับไปอีกสองตื่น ถึงเขตระยองพี่คนขับก็บอกให้เราลงตรงนี้ ลงมามึนกว่าเดิมที่นี่มันที่ไหนวะเนี่ยย หันไปดูป้ายใหญ่บอกว่าเป็นขนส่งระยอง ที่นี่จะมีรถสองแถวหลายสีมากจ้า ถามคนแถวนั้นบอกให้นั่งสองแถวสีฟ้าจะผ่านที่อุทยานเขาแหลมหญ้า ใครจะไปหาดแม่รำพึงนั่งคันนี้ก็ได้ค่ะคนละ 25 บาท
เรากับแฟนได้นั่งหลังสุดเลยค่ะ จะบอกว่าฟินมากกกกนั่งห้อยขาลมเย็นๆรถวิ่งจากตัวเมืองผ่านตึกไปเรื่อยๆเปลี่ยนเป็นต้นไม้เป็นชายทะเล ได้ฟิวมากๆ
(แต่นั่งหลังอันตรายนะคะ = =)
พอมาถึงทางเข้าอุทยานจะเจอด่านเก็บค่าธรรมเนียมคนละ 40 บาท
เดินตรงขึ้นไปตามทางเรื่อยๆจะเจอที่ทำการอุทยานแห่งชาติเราต้องเข้าไปติดต่อขอกางเต็นท์นะคะไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าไปกางเอง ค่ากางเต็นท์ 30 บาท ที่นี่มีเต็นท์ให้เช่าด้วยสำหรับคนขี้เกียจแบกไปแฮ่ๆ แล้วเดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ (แอบหอบ ไม่ใช่ไกลนะแบกของมาเยอะ5555)
ระหว่างทางจะมีต้นไม้ ระยะทางไม่ไกลมาก เดินไปเรื่อยๆจะเจอบ้านพักหลังนี้ ซึงจะมีทางแยกค่ะ แต่เราสเหร่อมากเดินไปอีกทางนึงนึกว่าต้องลงทางนี้ เป็นชั้นหินลาดลงไป เรียกได้ว่าลงไปอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย ซึ่งพอเดินมาเรื่อยๆ เห้ยแม่งมาอีกทางสะดวกกว่ามั้ยยยย 555555 ลำบากเพื่อ ใครมาก็เดินตามทางที่เค้าบอกดีแล้วนะคะอย่าซน
ถึงแล้ววววตามพิกัดจากกระทู้และกูเกิลสบายตาสบายใจหายเหนื่อยยเลย
ทะเลอะแกร๊ อะหุ้วววสายลมและแสงแดดเปรี้ยงปร้างมากจ้า รอบๆจะเป็นทะเล ข้างๆเป็นภูเขา ด้านหน้าทะเลจะเป็นทางยาวไปและมีศาลาที่น่าจะเป็นจุดเด่นของที่นี่ ใครมาก็ต้องจำได้แน่นอน ชายหาดที่เขาแหลมหญ้าไม่น่าเล่นน้ำเท่าไหร่ เพราะโขดหินเยอะมาก เค้าบอกช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนของทุกปี จะมีแมงกะพรุนหลากสีด้วย
ที่นี่คนแวะเวียนกันมาเยอะนะค่ะ เช้าๆนักปั่นจักรยานมากับเพียบ แต่มาแล้วก็จากไป ตกกลางคืนนี้เหงามากก มีแค่ป้าขายข้าวกะนักท่องเที่ยวรวมเรากะแฟนแล้ว 4 คน 555555555555 เออแบบเนี่ยแหละ สงบมากเว้ย
เขาแหลมหญ้านี่slow life มากค่ะ มีแค่แสงแดด ทะเล ภูเขา สายลม สองเรา ร้านขายข้าว1ร้านที่รับประกันความอร่อยมาก มีปลั๊กชาร์ตแบตเสียตังค์ 1 อัน ลิง และสัญญาณโทรศัพท์ที่เดินออกจากเสารับสัญญาณและจะไม่ได้รับการติดต่อจากคนในโซเชียลอีกเลย เรียกได้ว่ามาแล้วได้ชีวิตที่ย้อนกลับไปสู่ความเรียบง่าย เบรกตัวเองจากความเร่งรีบกันเลยทีเดียว5555555555 แต่ชอบค่ะที่นี่เงียบๆดี เหมาะสำหรับมนุษย์ผู้รักความสงบ คนอกหัก หรือคู่รักมาทดสอบความลำบาก จริงๆก็ไม่ลำบากหรอก ห้องน้ำก็มี ข้าวก็มีอร่อยด้วย เดินขึ้นเขาไปดูความสวยงามของธรรมชาติ ดูพระอาทิตย์ตกกะแฟนสวีทจะตาย มันลำบากตรงนี้ค่ะท่านผู้ชมมม
ตั้งใจกางเต็นท์ไว้วิวที่เปิดเต็นท์ออกมาโอ้โหเจอทะเลกรี๊ดดดดดเริศ ป่าวจ้าตีสองนอนๆอยุ่ฝนตก ลุกขึ้นมาหน้าตาตื่นทั้งคู่ เอาผ้าขนหนูอุดรูเต็นท์อยุ่ 5นาที ตัดสินใจเก็บกล้องเก็บของใส่กระเป๋า ทิ้งเต็นท์ พาร่างมึนๆที่พึ่งตื่นไปหลบฝนอยู่ร้านข้าว ป้าขายข้าวใจดีมากค่ะ จริงๆป้าเค้าคงสมเพชอีหนูสองคนที่สเหร่อมากางเต็นท์ผิดฤดู 55555555 ป้าเอาเสื่อกะผ้าผืนนึงมาให้ ค่ะนอนมันหน้าร้านข้าวตรงพื้นที่แหละ เป็นไงแกรรร วิวทะเล360องศาสมใจมั้ย อีกวันนึงย้ายไปนอนบนศาลา ตื่นมาเจอลิงแยกเขี้ยวจะขโมยรองเท้าอีกโอ้ยยย
ผ่านพ้นคืนวันอันโหดร้ายไป วันที่สองเราสองคนตั้งใจจะเดินไปสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่จะขึ้นไปเขาแหลมหญ้าโดยมีทั้งหมด 9 สถานี
ตามป้ายไปเล้ยยย
ระหว่างทางเจอทีมงานมาถ่ายพรีเวดดิ้ง พรีเวดดิ้งนี่มีมาถ่ายหลายคู่มากตลอดทั้งวัน
เดินขึ้นไปแล้วจะมาโผล่ด้านบนเขา มองลงมาจะเป็นทุ่งหญ้ากว้างๆ มีแหลมยื่นอออก เป็นที่มาของชื่อเขาแหลมหญ้าเห็นวิวทะเลไกลสุดตาเลย
ข้างบนอากาศร้อนมาก แนะนำให้ขึ้นมาเย็นๆแล้วรอดูพระอาทิตย์ตกจะดีกว่า
แอ่งน้ำกลางหินแกรนิตที่เกิดจากลาวา
เย้พระอาทิตย์ตกแล้ววววว หลังจากนั่งรอจนจะตูดจะละลายไปกับหญ้าและโขดหินแล้ว
ขากลับเราจะเดินกลับคนละทางกับตอนแรกเพื่อไปสถานีศึกษาธรรมชาติต่อไป จะเป็นเส้นทางสะพานเลียบไปกับทะเล และค้างอีกคืนที่นึ ตอนกลับง่ายๆค่ะมายังไงกลับยังงั้น เดินอออกมารอรถสองแถวที่ชาตินึงมาทีด้านหน้าอุทยานได้เลย
...ค่ะใครอยากลองไปเที่ยวแบบ 2 in 1 ทะเลภูเขา ใช้ชีวิตสงบๆสักพัก กางเต็นท์พักผ่อน เช้าจิบกาแฟรับลมทะเลดูพระอาทิตย์ขึ้น บ่ายถ่ายรูปชิคๆ เย็นปีนเขาไปดูพระอาทิตย์ตก ตื่นมาจ๊ะเอ๋ลิง หรือจะเป็นวันเดย์ทริป เดินทางสะดวกก็ลองมาที่นี่กันนะค่ะ 😀 เราไปสามวันสองคืน ใช้ตังค์ไปไปประมาณคนละ 800 บาท
เขาแหลมหญ้าที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ไม่ได้พิเศษกว่าที่ไหน แต่ความไม่มีอะไรเนี่ยแหละอาจทำให้คนที่มาหลงรักที่นี่ <3
สำหรับใครที่มีคำถาม สามารถเข้ามาสอบถามกันได้ที่
IG : Knottfdg / Tamnosmallenz
FB : Knottfdg / Smallenz Photographer