นาทีนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักหนุ่มหน้าตี๋ โอปป้าหน้าหล่อเมืองไทยสไตล์ Nippon Boy ที่ตอนนี้กำลังฮอตสุดๆ อย่าง เบสท์ ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์ ที่โด่งดังชั่วข้ามคืนจากเอ็มวีที่กระแสกำลังมาแรงกับเพลง อ้าว ของ ศิลปินมากฝีมืออย่าง อะตอม ชนกันต์ นอกจากจะเป็นหนุ่มฮอตจากเอ็มวีนี้แล้ว ยังเป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆ ในโลก Social Media ในการ Live ดีดกีต้าร์ร้องเพลงบน Facebook ที่ชวนเคลิ้มและอินตามกันสุดๆ ตอนนี้ยอดวิวพุ่งแรงจนเจ้าตัวยังแปลกใจ วันนี้ lookbook.th เลยอยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับอีกหลายๆ มุมของหนุ่มหล่อคนนี้ อยากติดตามกันแล้วหล่ะสิ งั้นเราไปรู้จักพร้อมๆ กันเลยจ้า
เบสท์-ณัฐสิทธิ์
Interviewเรามาทำความรู้จักกับเบสท์ก่อนดีกว่า
สวัสดีครับ ผม เบสท์-ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์ ตอนนี้อายุ 23 ปี เป็นดีเจวิทยุอยู่ที่ 95.5 virgin hitz , VJ ของทรูมิวสิค และ พิธีกรของ mono29 และนักแสดงครับ
ผมจบจากคณะวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม เอกภาพยนตร์ สาขาดีไซน์ออกแบบภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปกติเราเป็นคนกวนๆ แต่ก็จริงจังพอสมควร หมายถึง เราจะเป็นคนคิดเยอะแต่ว่าคนภายนอกจะมองว่าเราเป็นคนเฮฮา
ส่วนงานอดิเรก จะเล่นกีต้าร์อยู่ที่บ้าน เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง เราเริ่มเล่นกีต้าร์ตั้งแต่สมัยเรียน ครั้งแรกคือตอนม. 5 ตอนนั้นเราเป็นนักร้องด้วย เล่นกีต้าร์ครั้งแรกเลยคือ จีบหญิง จากนั้นมาเราก็เล่นมาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้แหละ
มี Life style แบบไหน
เราเป็นคนชอบแต่งตัว แต่บางครั้งก็ไม่กล้าแต่ง ส่วนมากจะแต่งตัวตามเทรนด์ จนรู้สึกว่าเราชอบสไตล์การแต่งตัวแบบญี่ปุ่น เกาหลี ผสมกันไป และจะดูจาก pinterest
นอกจากชอบแต่งตัวแล้วเราชอบเที่ยว ออกเดินทาง ตอนมัธยมเราไม่มีเงินเก็บพอเข้ามหาลัยก็เริ่มทำงานเก็บเงินไปเที่ยวกับแฟน ปกติที่บ้านเราก็ชอบเที่ยวอยู่แล้ว ในทุกปีอย่างน้อยต้องเที่ยว 3 – 4 ที่ จนเริ่มออกไปเที่ยวด้วยตัวเอง
จากตอนแรกเริ่มเที่ยวในไทยแล้วก็ออกไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน เราชอบเพราะเวลาเดินทางทำให้รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจออะไรใหม่ๆ แล้วก็เก็บมาเป็นประสบการณ์ มันทำให้เราอยากไปเที่ยวมากขึ้น แต่ตอนนี้ทำงานประจำเลยไม่ค่อยมีเวลาเที่ยวเท่าไหร่
อยากให้เล่าถึงวีรกรรมสุดแสบสมัยเรียนหน่อยค่ะ
เราแกล้งเพื่อนหนักสุดตอน ม.6 ตอนนั้นเป็นช่วงพักสอบ O-net เราก็พาเพื่อนไปเตะบอล พอหิวน้ำก็ชวนเพื่อนไปกินน้ำ พอเดินๆ อยู่เห็นขี้หมาแห้ง เราก็ไปโกยขี้หมาแห้งใส่ในบิ๊กคัพ แล้วก็ให้เพื่อนที่ดูติ๋มที่สุดในกลุ่มถือเข้าไปแล้วก็ไปกดน้ำเขย่าให้ขี้หมาแตกกระจาย
จากนั้นก็ให้เพื่อนที่ติ๋มๆอ่ะ เดินไปในสนามบอล ปกติคนที่คนเตะบอลเสร็จก็จะกระหายน้ำไง เราก็บอกเพื่อนที่ติ๋มๆ ว่า “เราว่ารีบเอาน้ำไปให้เพื่อนที่เตะบอลกินเถอะ” แต่บังเอิญคนแรกที่จะกินน้ำดันเห็นพิรุธเราก่อน เพราะเรายืนหัวเราะอยู่ข้างๆ เลยรอดไป เราเลยคิดว่าวันนั้นเป็นวันที่เราแกล้งเพื่อนแบบโหดสุดๆ ละ (หัวเราะ)
มีช่วงที่ดราม่าที่สุดตอนเรียนมั้ย
ถ้าเป็นเรื่องดราม่าที่สุดสมัยเรียน คงเป็นเรื่อง ติด F คงดราม่าสุดละ ตอนนั้นอยู่ปี 3 ทุกคนก็เรียนปกติ คนที่ไม่ติดเอฟก็จะลงวิชาเรียน 7 วิชาต่อเทอม แต่เราต้องเรียนเพิ่มเป็น 10 วิชาต่อเทอม คือต้องเรียนทุกวัน และทั้งวันเรียนเราคนเดียวด้วย เราว่ามันหนักสำหรับเรามาก เพราะมันนั่งเรียนแบบเหงาๆ แต่พอเราเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นก็เริ่มจัดการเรื่องการเรียนได้ และสามารถทำให้ผ่านมาได้ครับ
อาชีพที่ใฝ่ฝันคืออาชีพอะไร
ตอนเรียนฝันแรก คือ อยากเป็นผู้กำกับหนัง อยากทำหนังสั้นเป็นของตัวเอง พอได้ทำผู้กำกับก็ออกมาเป็นผู้ช่วย เมื่อได้เงินเราก็สนุกกับการเป็นผู้ช่วย ตอนนั้นเราเป็นผู้ช่วยหลายกองถ่ายมาก เราคิดว่าผู้ช่วยผู้กำกับเหมาะสุดสำหรับเรา พอถึงช่วงฝึกงานเรากลับไปฝึกเป็นครีเอทีฟซึ่งมันมั่วซั่วมากเลยชีวิต แต่ก็เป็นช่วงที่ถ้าเจออะไรก็ต้องรีบคว้าไว้ก่อนเพื่อให้ตัวเองรู้ว่าชอบอะไร ช่วงนั้นเราเป็นดีเจด้วย เราว่าดีเจเป็นอาชีพที่หลายๆ คนใฝ่ฝัน เพราะมันดูดูสนุก ซึ่งเราว่าทุกงานมันมีความสนุกในตัวของมันอยู่แล้วหล่ะ
มีการแบ่งเวลาในการเรียนกับการทำงานยังไงบ้างคะ
เราเริ่มเข้าวงการตอนม. 5 มีเพื่อนคนนึงให้เราไปเล่นหนังสั้นและก็ได้เพื่อนคนนี้แหละ ที่พามาเล่นเอ็มวีของพี่โดม วงโนโลโก้ เล่นแบบเป็นลุคกวนๆ ชั่วๆ ตอนนั้นเราต้องขอบคุณเพื่อนหลายคนที่ช่วยเข็นกันมาจนเรียนจบ จริงๆ เราก็แบ่งเวลาได้อยู่น่ะ แต่ขาดเรียนบ่อย ซึ่งอาจารย์ก็เข้าใจ เราเองก็พยายามจัดเวลาไม่ให้รบกวนเวลาเรียน แต่โดยส่วนตัวก็ไม่ค่อยอินกับการเรียนมากเท่าไหร่ (หัวเราะ) ปี 1 ติดเอฟ 2 ตัว เพราะติดเพื่อน นอนหอบ่อยเลยฉุดตัวเองไม่ค่อยอยู่ แต่พอขึ้นปี 2 เริ่มเราก็ดีขึ้น
ผลงานที่ผ่านมามีอะไรบ้างคะ
ก็มีเล่นเอ็มวีครับ , นักแสดงหนังเรื่องตั้งวง และก็มาเรื่มเล่นโฆษณา เราว่าเราเล่นโฆษณามากว่า 20 ตัว หลังจากนั้นก็มาเล่นหนัง เรื่อง อวสานโลกสวย , หนังเรื่อง 11 12 13 รักกันจะตาย และก็มาเล่นใน mv เพลงอ้าว ของพี่อะตอม นี่แหละครับ
เรารู้จักกับพี่เค้าก็เลยได้มาเล่นเอ็มวีเพลงนี้ ความประหลาดใจ คือ เวลาเราคิดว่าอยากจะเล่นหนังกับใครเราก็ได้เล่น เช่น เราคิดว่าอยากเล่นหนังกับพี่สายป่านเราก็ได้เล่น แล้วเราก็คุยกับแฟนว่าอยากเล่นเอ็มวีเพลง จู่ๆ มีคนติดต่อให้ไปเล่นเอ็มวี มันโชคดีมากเลย
คิดว่าตัวเองมีพัฒนาการด้านการงานมากน้อยแค่ไหนคะ
เราว่าเรามีพัฒนาการในการทำงานมากขึ้นนะ เค้าบอกว่าเราแสดงได้เป็นธรรมชาติ แล้วมันก็มีพัฒนาการมากขึ้น เพราะเราเรียนมาด้วย พอไปแสดงจริงๆ ก็จะเริ่มรู้มากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องของระบบกระบวนการแสดง หรือ เรื่องมุมกล้องในการแสดง มันเป็นเรื่องประสบการณ์ว่า เราอยู่มานานแค่ไหน อีกอย่างเราโชคดีที่ได้เจอแต่คนเก่งๆ ซึ่งเราก็ได้ความรู้จากเค้ามากเลยเลยทีเดียวครับ
วางเป้าหมายชีวิตไว้ยังไงบ้าง
เราเป็นคนไม่ค่อยวางเป้าหมายอะไรมากมายนะ ตอนนี้ทำให้มันโอเคก่อน ทำในสิ่งที่เราชอบ แล้วจอยไปกับมัน แล้วก็ทำไปโดยไม่วางเป้าหมายมาก เพราะถ้าวางเป้าหมายมาก พอเราพลาดแล้วมันจะเจ็บ ส่วนอนาคตคงอยากทำเบื้องหลัง ทำผู้กำกับ ผู้ช่วย ตอนนี้ก็เก็บประสบการณ์ไปก่อนเพื่อจะได้ต่อยอดตัวเองในอนาคตด้วย
MV เพลง อ้าว – Atom ชนกันต์
รู้สึกยังไงที่ได้ร่วมงานกับพี่อะตอมและกระแสเป็นยังไงบ้าง
ปกติเราชอบฟังเพลงพี่เค้าอยู่แล้ว ก็รู้สึกดีใจที่ได้เล่นเอ็มวีของพี่อะตอมและก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นเอ็มวีที่ดังแล้วมีคนพูดถึงมากขนาดนี้ ปกติก็ชอบการแสดงอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นสนใจเล่นเอ็มวีเลยตอบตกลงพี่เค้าไป หลังจากที่ปล่อยเอ็มวีออกมา กระแสดีมากจนน่าตกใจและคนก็รู้จักเราเยอะขึ้นจากเอ็มวีนี้เลย ซึ่งเราประหลาดใจตรงที่ เห้ย เราเคยรับรางวัลสุพรรณหงษ์แต่ทำไมคนไม่ค่อยรู้จัก พอได้มาเล่นเอ็มวีเพลงอ้าวคนรู้จักเราเยอะมากขนาดนี้ เราก็งงเหมือนกัน
เคยเจอหตุการณ์เหมือนในเอ็มวีรึเปล่า
ไม่เคยครับ เราคบกับแฟนจะเจ็ดปีละ ไม่เคยเลิกกับแฟนเลย เลยไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และแฟนเราเป็นคนที่เข้าใจ เราคบกันจนเป็นเหมือนเพื่อนอ่ะ เข้าใจกันแทบทุกอย่าง
คิดว่าคนติดตามการ live ของเบสท์เพราะอะไร
ส่วนหนึ่งเลยเราว่าติดตามมาจากเอ็มวีเพลงอ้าว ของพี่อะตอมอ่ะแหละ และหนังสั้น talk talk ซึ่งมีคลิปนึงที่ตัดออกมาจากซีนหนึ่งในหนังสั้นที่เราเล่นเหมือนตุ๊ดอ่ะ คือ ปกติเรา live facebook อยู่แล้วหล่ะ แต่หลังจากปล่อยเอ็มวีมา จากครั้งแรกที่ live ที่มีคนดูมากสุดร้อยคน ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็นพันเลย กับ ep. โวยวายให้หายเบื่อ คือเราก็ live เล่นๆ ไม่คิดว่าจะมีคนมาติดตามเยอะขนาดนี้ ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมาก
รู้สึกยังไงกับเพจ รีวิว live
เราว่าตลกอ่ะ เรายังไปคอมเม้นท์อยู่เลยว่า “ไม่น่าเชื่อว่าผมจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกที่ถูกรีวิว เราถูกผ่านการใช้งานมาแล้วครับผม” (หัวเราะ) แต่เราก็ขอขอบคุณที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้คนรู้จักเราเยอะมากขึ้น และขอบคุณหลายๆ เพจที่เขียนถึงเราด้วยครับ
รู้สึกยังไงที่มีคนเรียกว่า โอปป้า กับ Nippon boy
เราก็รู้สึกดีใจนะตอนแรก คือ เขิลมากๆๆ เราเคยไปอ่านบทความนึงเค้าเขียนเกี่ยวกับไอดอลพวกนี้แหละ ประมาณว่า “การที่มีคนชื่นชมมันไม่จำเป็นต้องอายเลย เราจะอายกับสิ่งที่คนชื่นชมทำไม เราก็ควรจะภูมิใจในสิ่งที่คนชื่นชมมากกว่า “ เราเลยรู้สึกดีที่มีคนมาชมแบบนี้ ก็เลยไม่ได้เขิลอะไรมากแล้ว แต่รู้สึกดีใจมากกว่า
ชอบเพลงสไตล์ไหนแนวไหน
เราก็ชอบหลายๆ แนวน่ะ เราชอบเพลงฟังสบายๆ ช่วงหลังชอบฟังเพลงลอยๆ ส่วนใหญ่จะฟังของ the beatles เราก็ไม่รู้ว่าชอบเพลงแบบไหน คือ ถ้าเจอเพลงที่ชอบก็ชอบเลย แค่ไม่ชอบเพลงจังหวะหนักๆ เท่านั้นเอง
ถ้าได้ร้องเพลงกับศิลปินอยากร้องกับใคร
เราอยากร่วมงานกับหลายวงเลย อย่าง Groove rider เป็นวงที่เท่มาก เราชอบตั้งแต่เด็ก และเราก็โตมากับ พี่บอย โกสิยพงศ์ เราอยากร้องเพลงกับพวกเค้า หรือไม่ก็เป็นวงจากต่างประเทศไปเลย ประมาณนั้น
มีปรัชญาการใช้ชีวิตมั้ยคะ
เราไม่มีนะ คิดแค่ว่าทำไปเถอะ เราว่าทุกคนรู้ว่าอันไหนดี ไม่ดี สำหรับเรา เราว่ามันน่าจะโอเคที่สุดแล้ว ไม่ต้องไปอิงกับปรัชญาที่ว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้ววันพรุ่งนี้หล่ะ ไม่ดีแล้วเหรอ เราเลยไม่ค่อยมีปรัชญาอะไรมากมายครับ
สุดท้ายฝากผลงานและคนที่ติดตามเบสท์กันหน่อยดีกว่า
คนที่ติดตาม live เราก็เข้าใจว่ามันเป็นกระแสที่ตามแล้วก็หายไป แต่ยังไงเราก็อยากขอบคุณทุกคนที่ติดตามที่มาอยู่เป็นเพื่อนเรา เราเองก็รู้สึกตื่นเต้นที่มีคนมาฟัง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้ฟังไปเรื่อยๆ นอกจาก live แล้วก็สามารถติดตามเราได้ที่ 95.5 virgin hitz จัดคู่กับพี่จ็อบช่วงเช้า ตอน 6.00 – 10.00 น. และรายการสยามเด็กเล่นรายการสดเวลา 17.00 – 18.00 ที่ช่องทรูมิวสิค นอกจากนี้ ก็จะมีพวกถ่ายโฆษณาและตอนนี้กำลังถ่ายหนังเรื่องใหม่ของสหมงคลฟิล์ม ชื่อเรื่อง สยามสแครว์ ก็จะเปิดกล้องถ่ายแล้ว ยังไงก็ขอฝากติดตามด้วยนะครับ
เพื่อนๆ คงได้รู้จักกับหนุ่มหล่อหน้าตี๋กันไปบ้างแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถติดตามผลงานของ เบสท์-ณัฐสิทธิ์ เพิ่มเติมได้ที่
Facebook : Nathasit Kotimanuswanich
Instagram : bestnk
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณร้าน Yellow Spoon Pastry ที่ให้เราได้เก็บภาพสวยๆ ได้ทานของอร่อยๆ ขอบคุณมากเลยค่ะ
Writer : Plowhy
Photographer : Chayang Chayangkul