กลับมาแล้วจ้า หลังจากที่เราได้ไปเชยชมสถานที่เก๋ๆและได้แนะนำเพื่อนๆไปแล้วอย่าง “ชมเฌย” ถือว่ากระแสตอบรับค่อนข้างดี จนตอนนี้คนไปเที่ยวกันเยอะมาก ใครที่ยังไม่ได้ไปต้องรีบไปซะนะ แต่ถ้ายังไม่อยากไปเพราะกลัวคนเยอะ วันนี้เรามีที่เที่ยว ที่พักแห่งใหม่ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯเท่าไหร่นักกับ กุลนทีโฮมสเตย์ จังหวัดนครปฐม ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านท่องเที่ยว งงอะดิ แต่ครั้งนี้เราไปกัน 2 วัน 1 คืน ส่วนบรรยากาศอะหรอ เรารู้สึกเหมือนได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดอะไรประมาณนั้นเลย เพราะโฮมสเตย์ที่เราไปพัก ฟินสุดๆ แถมคนในหมู่บ้านน่ารักมาก อยากรู้มั้ยว่าการมาเที่ยวครั้งนี้มันแฮปปี้ยังไง เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง
วันหยุดเสาร์อาทิตย์เราก็อยากจะพักผ่อนในสถานที่ที่ไม่วุ่นวายนัก เราเลยนัดกับเพื่อนไปกันที่กุลนทีโฮมสเตย์ จังหวัดนครปฐม เราเลือกนอนที่นี่เพราะเป็นโฮมสเตย์บนเรือ ฟังแล้วมันดูเก๋ดี ด้วยความที่พวกเราชอบอะไรที่มันเก๋ๆอยู่แล้ว จึงขอลองมาหน่อย เราขับรถออกจากกรุงเทพฯในเที่ยงวันเสาร์ มาถึงที่พักประมาณบ่ายนิดๆ เพราะกรุงเทพฯรถติดมาก แต่พอเข้าสู่จังหวัดนครปฐม รถนี่วิ่งคล่องตัวเลย บรรยากาศระหว่างยังดีขนาดนี้ แล้วที่พักจะดีขนาดไหน
ในที่สุดเราก็มาถึงที่พักแล้ว เดี๋ยวๆนั่นมันตลาดเก่าก๊กพญาไม่ใช่หรอ .. ถ้าเข้ามาแล้วอย่าเพิ่งตกใจนะคะ เพราะที่นี่ก็คือที่พัก ส่วนตลาดเก่านั้นอยู่ข้างๆนี่เอง ที่พักที่นี่เป็นของอาจารย์ฐาปนีย์ เป็นบ้านทรงไทยติดริมน้ำ โดยบริเวณรอบๆจะเป็นหมู่บ้านทั้งหมด ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่น่ารักมากๆค่ะ เมื่อพวกเรามาถึงที่พัก ก็ต้องไปสำรวจห้องพักกันหน่อย
โฮมสเตย์บนเรือที่เราจะมาพักกันมี 2 เตียงใหญ่ นอนได้สบาย มีเครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำด้านล่าง และที่นั่งชมวิว เหมือนล่องเรืออยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญใครที่อยากแจวเรือไปชมบรรยากาศ ทางที่พักก็มีเรือให้นะ แต่คือพวกเราแจวไม่เป็นไง คงต้องรอเรือแจวที่เค้ารับนักท่องเที่ยวต่อไป แต่นี่ก็เที่ยงแล้ว กินไรดี .. โอ้โห มีก๋วยเตี๋ยวเรือรออยู่หน้าโฮมสเตย์เลย ไม่รอช้ารีบไปสั่งอย่างไว
หลังจากที่เราทานก๋วยเตี๋ยวเรือที่โฮมสเตย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินสำรวจรอบๆปรากฎว่าเจอตลาดเก่าก๊กพญา คือเป็นตลาดเล็กๆ แต่น่าถ่ายรูปมาก ไม่ต้องไปใครเราก็เจอโลเคชั่นเด็ดๆ ซะงั้น คนอย่างพวกเรามีหรอที่จะไม่ถ่ายรูป ไหนลองไปสำรวจหน่อยสิ
ภายในตลาดเก่านี้ ก็จะมีร้านค้าอยู่บ้างเล็กน้อย จะจำหน่ายน้ำสมุนไพร ขนมโบราณ หรือของใช้ทั่วไป ถ้าเดินไปเรื่อยๆ จะมีบ้านพิ ให้เข้าไปชมสิ่งของโบราณที่หาดูยาก เข้าชมฟรีนะ นอกจากนี้ ยังมีท่าเรือสำหรับคนที่อยากจะมาเดินตลาดนี้หรือคนที่อยากนั่งเรือแจวไปเดินตลาดน้ำลำพญา จะมีคุณลุงรออยู่ที่ท่าเรือเล็กๆ
นั่นไงเรือแจว!!!
วันนี้ไปไม่ทัน งั้นไปพรุ่งนี้ละกันเน้อะ
หลังจากที่พวกเราเดินถ่ายรูปเล่นกันเป็นเวลานาน(มาก)พอสมควร ก็เริ่มอยากจะไปหาของอร่อยๆมาทาน เห็นเหมือนคนที่นี่เค้าบอกว่า มีตลาดน้ำวัดลำพญา อยู่ไม่ไกลมาก มีของกินเพียบ!! รีบไปหยิบกุญแจรถแล้วมุ่งหน้าไปตลาดน้ำด้วนเลยค่ะ เอ้อ จริงๆที่โฮมสเตย์มีจักรยานให้ปั่นด้วยนะ แต่พวกเรากลัวฝนจะตกเลยไม่ได้ปั่นไป ถ้าใครมาลองมาปั่นจักรยานดู เผื่อจะได้อีกฟีลนึง อ่ะๆบรรยายเสร็จ ไม่ทันไร ถึงตลาดน้ำพอดี ป่ะ ไปหาอะไรกินกัน!
ขนมหวาน ขนมไทย
ผลไม้ดองรสเด็ด
ซื้อไปฝากยายซะหน่อย แฮ่!
อาหารทะเลก็มีนะจ้ะ
ทอด ทอด และก็ทอดไปอี๊ก
สำหรับใครที่ขับรถมาเอง อาจจะนำรถเข้ามาจอดได้ข้างๆตลาดน้ำหรือในวัดลำพญาก็ได้ค่ะ แต่ถ้าจะให้ดี อย่าลืมมาไหว้พระกันที่วัดลำพญาด้วยนะ อยู่ติดกับตลาดน้ำเลย พวกเราเดินวน ตะลุยกินกันประมาณ 2 รอบละ ขอกลับไปพักผ่อนที่พักก่อน ส่วนอาหารเย็นวันนี้ ที่พักได้ทำไว้ให้แล้วจ้า เป็นไข่เจียว น้ำพริกเผา และบลาๆ แค่ได้ยินชื่อก็หิวแล้ว งั้นขอไปกินก่อนน้า
DAY 2
เมื่อคืนฝนตกทั้งคืน อากาศดีมาก เงียบสงบ ไม่มีทีวี ไม่มีเสียงผู้คน ถือว่ามาพักผ่อนจริงๆ ในส่วนของเช้าวันอาทิตย์ที่แสนสดใส อากาศดีมาก ตื่นมาพวกเราก็รีบไปอาบน้ำกันที่โฮมสเตย์หลังใหญ่ เพราะที่เรือไม่มีห้องอาบน้ำ หลังจากที่เราทำธุระส่วนตัวเสร็จ เราก็ได้กลิ่นหอมมาแต่ไกลพร้อมเสียงของป้าตุ๊กตา ที่พูดว่า รออีกแปปนึงนะหนู เดี๋ยวอาหารเสร็จแล้วจะเรียกจ้า ระหว่างที่รอเราก็เดินไปฝั่งตรงข้าม เดินข้ามสะพานไปจะมีศาลเจ้าอาม่า ให้คนมากราบไหว้ แถวนี้ถ้ามองรอบๆจะเป็นหมู่บ้านทั้งหมด และคนในหมู่บ้านน่าจะรู้จักกันเกือบหมด เราว่ามันดูอบอุ่นดีนะ ผ่านไปสักพักคุณป้าตุ๊กตาก็เรียกให้เราไปรับอาหารเช้า
อาหารเช้าของที่นี่จะไม่เหมือนโรงแรมทั่วไป ปลา ผักต่างๆ เป็นของชาวบ้านที่เค้าดูและและปลูกไว้เอง สดแน่นอน แถมยังลงมือทำกันอีก เรื่องรสชาติเราให้เกินร้อยเลย ถ้าอยู่กรุงเทพฯเราไม่ค่อยมีโอกาสได้กินอาหารแบบนี้เท่าไหร่ มาถึงนี่ก็ต้องกินให้หมด
หลังจากที่เรารับประทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะได้นั่งเรือเครื่องไปร้านกาแฟ Tree & Tide แล้ว เป็นร้านกาแฟที่ติดกับตลาดน้ำวัดลำพญาเลย คือเมื่อวานฝนตก พวกเราเลยอด วันนี้อากาศดี ต้องรีบไปลองละ
ก่อนที่เราจะไปร้านกาแฟ เราได้ยินเสียงกลองดังมาก จึงยืนรอดู .. แล้วก็มีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนบ้านนราภิรมย์เดิมาเป็นขบวนเล็กๆเพื่อหาเงินไปทำบุญเนื่องในวันเข้าพรรษา เรารู้สึกว่าไม่ค่อยได้เห็นอะไรแบบนี้มานานพอสมควร เพราะปกติเสาอาทิตย์ เป็นวันหยุดหลายคนอาจจะหยุดเรียนอยู่บ้านหรือไปเรียนพิเศษ พอได้เห็นน้องๆกลุ่มนี้ ก็ยิ้มแบบบอกไม่ถูกเหมือนกัน ทำบุญกับน้องๆเสร็จแล้ว เราก็เดินไปรอคุณลุงที่ท่าเรือ
ใครที่คิดจะมาเที่ยวที่นี่ วันเดียวก็คุ้มแล้ว ร้านกาแฟร้านนี้ติดริมน้ำ บรรยากาศดี แถมเมนูเครื่องดื่มก็ดูน่ารัก อาหารเพียบ ใครที่หาร้านกาแฟสวยๆ ชิคๆ ร้านนี้ถือว่าผ่าน!! มาแล้วก็ต้องสั่งอาหาร ระหว่างรออาหาร ก็ไปถ่ายรูปสิ จะได้เอาไว้อัพลงไอจีซะหน่อย
หลังจากที่กินอาหาร เครื่องดื่มจนหนำใจแล้วถึงเวลาที่จะต้องกลับกรุงเทพฯกันละ เราจึงนั่งเรือเครื่องของคุณลุงคนเดิมกลับไปยังที่พัก เผื่อไปเก็บของและเตรียมตัวกลับ สำหรับใครที่อยากจะมาพักผ่อนชิลๆ สบายๆ ไม่วุ่นวายแบบเรา สามารถขับรถมาทางปิ่นเกล้า ใช้ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี เจอมหาวิทยาลัยมหิดล เลี้ยวซ้ายไปยังสถานีตำรวจศาลายา และเลี้ยวขวาจากไฟแดงตรงสถานีตำรวจ ตรงมาอีกสักพักจะเจอป้ายกุลนทีโฮมสเตย์เป็นป้ายสีเขียวอยู่ด้านซ้ายมือขับเข้ามาได้เลย โดยที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 8 ห้อง ถ้านอนในเรือคืนละ 1,200 บาท (พักได้ 4 คน ถ้ามากกว่านี้ก็เพิ่มคนละ 100 บาท นอกจากนี้ในบ้านยังมีห้องพักอีกมากมายให้ได้เลือกกัน เพื่อนๆสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 081-7214874 (อาจารย์ฐาปนีย์) และ 081-6597371 เที่ยวที่ไทย แฮปปี้ทุกที่ มาเถอะ รับรองว่าไม่หวังผิด