FLUIDITY LOOP ซีรีส์ใหม่ที่นำเสนอเสื้อผ้าที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหล ถูกผลิตขึ้นจากผ้านิตที่ถักทอให้มีรูปทรงขดเป็นวง ซึ่งเสื้อผ้าในซีรีส์นี้ได้ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับธีมหลักของคอลเลคชันประจำฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน 2022 จาก ISSEY MIYAKE ทีมีชื่อว่า A Voyage in Descent
FLUIDITY LOOP ได้แรงบันดาลใจมาจากธีมหลักของคอลเลคชัน ซึ่งพูดถึงเรื่องราวของการดำดิ่งและการเดินทางในท้องทะเลลึก เสื้อผ้าในซีรีส์นี้ต้องการที่จะสื่อถึงความลื่นไหลและความปราดเปรียวในรูปทรงโค้งมนตามแบบธรรมชาติ ที่ห่อหุ้มร่างกายของผู้สวมใส่เอาไว้ราวกับว่าการเคลื่อนไหวของเราขึ้นอยู่กับและเป็นไปตามกระแสน้ำ ซึ่งได้ถูกออกแบบขึ้นจากเทคนิคที่เรียกว่า Plating เป็นการถักเส้นด้ายสองสีพร้อมกัน เพื่อให้ได้ผิวสัมผัสเป็นริ้ว ๆ คล้ายระลอกของคลื่นบนผิวน้ำ ปรากฏสีหนึ่งบนพื้นผิวด้านบน และเผยให้เห็นอีกเฉดสีหนึ่งด้านล่างในขณะที่เกิดการขยับและขยายตัวของเสื้อผ้า
นิทรรศการ KURA Exhibition: FLUIDITY LOOP นำเสนอโครงสร้างการถักทอของเนื้อผ้านิต FLUIDITY LOOP ในรูปแบบของงานประติมากรรม ภายในนิทรรศการได้มีการจัดแสดงเนื้อผ้าทั้งในรูปแบบของงานศิลปะและวิดีโอ ซึ่งเผยให้เห็นถึงความสนุกสนานของผ้าถักนิตในซีรีส์นี้ ทั้งยังมีการผสมผสานนำเอาเทคนิคการถักทอเนื้อผ้าจนทำให้เกิดเป็นรูปทรงที่ขดเป็นวง ตลอดจนวัสดุด้ายชนิดต่าง ๆ ที่ถูกหยิบมาใช้ และงานดีไซน์ที่ถูกคิดมาเพื่อให้ใช้การตัดเย็บน้อยที่สุด
FLUIDITY LOOP
ซีรีส์ FLUIDITY LOOP นำเสนอเสื้อผ้าที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหล ถูกผลิตขึ้นจากผ้านิตที่ถักทอให้มีรูปทรงขดเป็นวงโค้งมนตามแบบธรรมชาติ ห่อหุ้มร่างกายของผู้สวมใส่เอาไว้ราวกับว่าการเคลื่อนไหวของเราขึ้นอยู่กับและเป็นไปตามกระแสน้ำ ทำให้สามารถนำมาสวมใส่ได้หลากหลายสไตล์ ผิวสัมผัสเป็นริ้ว ๆ คล้ายระลอกของคลื่นบนผิวน้ำถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากการถักทอของเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลสองสีพร้อมกัน ซึ่งทำให้มองเห็นสีด้านล่างเมื่อผู้สวมใส่เคลื่อนไหวร่างกาย โดยเสื้อผ้าในซีรีส์นี้มีให้เลือกถึงหกสไตล์ รวมไปถึงไอเทมเสื้อที่สามารถใส่กลับหน้า-กลับหลังได้
บูติคแห่งนี้ออกแบบโดย นาโอโตะ ฟุคาซาวะ (Naoto Fukasawa) เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่ผสานเอาจิตวิญญาณของงานดีไซน์ตามแบบฉบับของ ISSEY MIYAKE และสอดคล้องไปกับบ้านในสไตล์ “machiya” หรือ “ทาวน์เฮาส์” แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยให้บรรยากาศที่ผสมผสานไว้ทั้งรูปแบบแบบดั้งเดิมและงานนวัตกรรมอันแปลกใหม่ โดยมีเฉดสีคลาสสิค อันได้แก่ สี “sumi” หรือ “หมึก” ที่เชื่อมโยงสุนทรียะในภาพรวมเข้าไว้ด้วยกัน สำหรับแกลเลอรี “KURA” หรือ “ห้องเก็บของ” ที่ลานด้านนอกถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับงานดีไซน์และงานฝีมือหลายครั้งในแต่ละปี