Eye Yanin
Interview
"เราว่าเด็กรุ่นใหม่สมัยนี้เก่งขึ้นมากน่ะ มีความกล้า
เป็นเพราะการเติบโตของเทคโนโลยีด้วยมั้ง
อย่าง YOUTUBE มันบูมมากเลย
สมัยตอนเราเด็กๆ YOUTUBE มันก็ไม่ฮิตขนาดนี้
แต่การที่เด็กรุ่นใหม่ กล้าที่จะแสดงออกและแชร์ลง YOUTUBE ก็ดีแล้ว
มีอะไรก็โพสต์ไว้ก่อน ถ้าหากว่ามันไม่เวิร์คหรือโดนวิจารณ์ก็ช่างมัน ก็ถือว่าได้ทำ"
หากพูดถึงเรื่องวงการดนตรี หลายคนคงมีศิลปินในดวงใจกันบ้างแล้ว และปัจจุบันในวงการดนตรีของไทยเราก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งศิลปินหน้าใหม่ และ ผลงานเพลงมากมายไว้ให้เราได้ติดตามกันอยู่บ่อยๆ และวันนี้ lookbook อยากจะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับ ศิลปินสุดเท่ ขวัญใจเด็กแนวอย่าง อาย ญาณิน ที่มาพร้อมแนวเพลงสุดเจ๋ง ทั้งสไตล์ของเพลง และดนตรี ครั้งที่แล้ว เราเคยสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวชีวิตไปบ้างแล้ว วันนี้เรามาอัพเดตกันหน่อยดีกว่า
พี่อาย แนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักกันหน่อย
สวัสดีค่ะ ชื่อณาณิน พันไทย ส่วนใหญ่คนจะเรียก อาย ญาณิน ตอนนี้ก็เพิ่งเรียนจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ลาดกระบัง ถ้าถามถึงอายุก็ .. 22 ปี ค่ะ ยังเด็กอยู่ใช่ม้ะ (หัวเราะ) ส่วน life style ของเราอ่ะหรอ เราเป็นคนไม่ค่อยมี life style เท่าไหร่ เพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนที่คูลอะไรขนาดนั้น เพราะตั้งแต่เข้ามหาวัทยาลัย ส่วนใหญ่ก็จะทำงานซะมากกว่า ทั้งงานในมหาวิทยาลัยและงานข้างนอก แบบซ้อมดนตรี หรือ ถ้าหากว่าเป็นช่วงนี้ก็จะรับงานพวกโฆษณาด้วย เราเองก็จะปรับสายการใช้ชีวิตไปโดยที่ยุ่งๆ ไม่ค่อยมีอะไร
ส่วนนิสัยก็ของเราหรอ อืมม..ตอบยากจัง เหมือนมีสองคนในร่างเดียวแหล่ะมั้ง ประมาณ คนนึงก็จะเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร เบ๊อะๆ ชอบความวุ่นวาย ความสนุก ชอบเข้าสังคม ส่วนอีกคนนึงก็จะเป็นคนที่ คิดมาก ในหัวคิดแต่เรื่องอดีตเต็มไปหมด
งานอดิเรกของเรา มันไม่มีแบบตายตัวอ่ะดิ ถ้าว่างๆก็จะเปิดเพลงฟัง บางครั้งก็อาจจะหยิบกีตาร์มาเล่นมั่วๆ เพื่อแต่งเพลง เพราะว่าเราไม่อยากอยู่นิ่งๆ แต่วช่วงนี้ก็ได้มารู้จักกับพี่ๆ ที่ทำเพลง และจะมีพวกดนตรี มาให้เรา ลองแต่งเมโลดี้ ลองแต่งเนื้อเพลงดู คือ ต่อยอด เพลงของคนอื่น แล้วก็ขอเค้าให้เป็นเพลงของเราเอง อันนี้พอเรียกเป็นงานอดิเรกได้มั้ย (หัวเราะ)
พี่อายมีสไตล์การแต่งตัวยังไงบ้างคะ
เราเป็นคนชอบโบฮีเมียนมาก แล้วก็ชอบการแต่งตัวของยุค 70s – 80s อย่าง บุปผาชน กางเกงขาม้า พวกยิปซีอะไรประมาณนี้ แต่ว่าเราจะแต่งแบบนั้นไม่ได้ 100 % ด้วยความที่รูปร่างของเราและบางครั้งแต่งไปก็ดูเป็นคุณป้า แต่มันก็แล้วแต่วันและโอกาสมากกว่า ถ้าหากวันปกติที่ไม่ได้อยากแต่งตัวมาก ก็จะแต่งเป็น casual ธรรมดา ปกติเรียบๆ
ไอเท็มที่อายจะพกติดตัวตลอด คือ ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะเป็นหมวกปีกกว้าง แต่เมื่อพอเราโตขึ้น ต้องออกงานไปนู้นไปนี่ เราว่ามันลำบาก ถ้าลมพัดก็ปลิว นอกจากหมวกก็จะชอบ แหวน และ รองเท้า loafer
พี่อายชอบฟังเพลงสไตล์ไหน มีศิลปินในดวงใจหรือเปล่าคะ
อาย ชอบเพลง ยุค 70s – 80s แต่ที่ชอบมากๆจะเป็น disco funk ของญี่ปุ่น เพราะมันจะมีความกรูฟ แต่ถ้าเป็นฝั่งยุโรป ปัจจุบันก็จะชอบ ดรีม ป๊อบ แนว สดใส กุ๊งกิ๊ง แต่ถ้าเป็นเพลงที่เป็นจิตใต้สำนึก ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเราที่สุด ก็จะเป็นแนวโฟล์ค ส่วนฝั่งอินโดนีเซีย ชอบพวกดนตรีพื้นถิ่นของอินโดนีเซีย ดนตรี Gamelan ประมาณนี้อ่ะ
ส่วนใหญ่เพลงของพี่ อาย เป็นแนวเพลงสไตล์ไหน
ญาณิน คือ เราทำหลายโปรเจคจนมันงงอะ คือจะแยก ญาณิน ก็จะเป็นอะคูสติก แต่เราอยากให้มันเป็นโฟล์ค ซึ่งมันก็ยังเป็นโฟล์คไม่ได้เพราะเราเล่นดนตรีไม่เป็นเลย เราต้องให้คนอื่นช่วย ส่วนอีกโปรเจคนึง ก็ทำกับ พี่ตั๋ง Casinotone อันนี้ก็จะเป็น อิเลคทรอนิค แต่ตอนนี้ยังไม่ได้จำกัดความว่ามันจะเป็นเพลงแนวไหน แต่คงเป็น อิเลคทรอนิค นั่นแหละ
เนื้อหาของเพลงที่แต่งขึ้น เกิดขึ้นจากอะไร
ถ้าเป็นเพลงที่เราทำเอง เนื้อหาของเพลงที่แต่งขึ้นจะเกิดจาก timeline ของชีวิตเราเอง คือมันเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ณ ตอนนั้นเลย แต่ถ้าหากว่าเป็นเพลงที่ได้จากคนอื่น แล้วเอามาแต่งเนื้อเอง มันก็จะไม่ใช่เพลงที่เป็นเนื้อหาของเพลงมาจากเรา ซะ 100 % มันอาจจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น และนำมาปรุงแต่งเพิ่ม
“
ปัจจุบัน วงการดนตรีไทย มันเริ่มมีอะไรแปลกๆ ให้เราฟังขึ้นเรื่อยๆ เราไม่มีข้อติอะไร เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นการพัฒนาที่ดีขึ้น
“
คิดยังไงกับศิลปินอินดี้ในเมืองไทย ที่ตอนนี้กำลังมาแรงมาก
เราคิดว่ามันดีนะ มันเริ่มมีอะไรแปลกๆให้เราฟังขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีข้อติอะไร เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นการพัฒนาที่ดีขึ้น และกระแสช่วงนี้ที่เป็นเด็กแบบ ฮิปสเตอร์ เรามองว่ามันก็ไม่ผิดนะ ถึงแม้ว่าเค้าจะอินไป แต่เรากลับมองว่า แฟชั่นมันเท่ดี อย่างน้อยเค้าก็ได้ผ่านหู บางทีแม่งอาจจะชอบจริงๆก็ได้ หรืออาจจะสามารถพัฒนาวงการดนตรีไทยได้อีกด้วย เพราะว่าตอนนี้ วงการดนตรีไทย เพลงแมส มันค่อนข้างจะเป็นแพทเทริ์นเดียวกันจนเกินไป เราเห็นที่ต่างประเทศ คือ เราเป็นคนที่คลั่ง อินโดนีเซียมาก เพลงอินดี้ของประเทศไทย มันคือเพลงแมสของบ้านเค้า คือ คนอายุ 30 – 40 เค้าฟังเพลงแบบ post rock ที่บ้านเราเรียกว่า อินดี้ แต่ถ้าเป็นส่วนในบ้านเค้าก็คงเป็นเรื่องปกติ
มาพูดถึง Single ใหม่
อย่างเพลง you กันบ้างดีกว่า
เพลง you เป็นเพลงสไตล์ อิเล็กทรอนิคป็อป ทั่วไป โดยเพลงนี้ พี่ตั๋ง คาซิโนโทน ได้ส่งดนตรีมาให้ หน้าที่เดิมของเรา คือ ทำเมโลดี้ ใส่เนื้อเพลง ตอนแรกคือ พี่ตั๋งอยากให้มันเป็นภาษาไทย แต่ตอนเราที่ฮัม มันเป็นภาษาอะไรไม่รู้ ไปๆมาๆกลับกลับเป็นภาษาญี่ปุ่นเว้ย คือเราพูดญี่ปุ่นไม่เป็นแต่ว่ามันฮัมได้เป็นภาษาญี่ปุ่น เราเลยปรึกษากับพี่ตั๋งว่า เราจะทำเพลงเพื่ออยากให้เพลงมันดัง หรืออยากจะสนอง NEED ตัวเอง สุดท้ายก็ได้คำตอบมาว่า สนอง need ตัวเองไปก่อนละกัน เพราะเพลงนี้รู้สึกว่า ยังไงมันก็ต้องมีความเป็นญี่ปุ่น จึงขอแจมภาษาไทย ไปด้วย และก็ไปหาคนแต่งเอาดาบหน้า สบายใจกว่า
ส่วนชื่อเพลง YOU เราแต่งช่วงที่กำลังคุยกับคนๆนึง เหมือนเค้าดูจะชัดเจนกับเรา แต่บางครั้งเรารู้สึกว่ายังไงกันแน่ จึงเอามาดัดแปลง เพลง you จะสื่อถึงความคลุมเครือ ในสถานะที่เป็นอยู่ของตอนนี้ เหมือนที่คุณสบตาชั้นแล้วมันสื่ออะไรบางอย่าง เหมือนว่าท้ายที่สุดคือไม่รู้ว่าคิดไปเองรึป่าว หรือว่ายังไงกันแน่ แต่บางครั้งคุณก็ เหมือนจะคิดกับเรานี่หว่า
มาถึงตอนนี้พี่อายคิดว่า ตัวเองประสบความสำเร็จ หรือยังคะ
ม่ายยยย ยังไม่ได้ครึ่งที่คิดเอาไว้เลย ที่คิดไว้คือ ถ้าหากว่าตัดในเรื่องของความเป็นจริงไป เราอยากเป็นศิลปินที่ทำเพลง ตามใจตัวเอง แต่คนฟังตามมาฟังเรา แล้วเปลี่ยนเพลงอินดี้ให้มันเป็นแมส ประมาณพี่เล็ก greasy cafe คือเพลง ของเค้ามันอินดี้ แต่เค้าสามารถให้มันเป็นแมสด้วยตัวเค้าเอง อาจจะมองว่าเพลงเค้าไม่ได้ติดหูขนาดนั้น แต่เค้าสามารถทำให้มันเป็นแบบนั้นได้ เราว่ามันเจ๋งมาก
อยากบอกอะไรถึงเด็กรุ่นใหม่ ที่ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย บ้างมั้ย
การที่ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย เราไม่เคยท้อ เหมือนว่าชีวิตในช่วงมหาลัย เราไม่ได้มีใคร สังคมที่มหาลัยก็เหมือนกับไม่ได้เป็นของเรา เพราะฉะนั้น ชีวิตที่เรามีอยู่ในช่วงนั้น เราคิดว่ามันก็มีแค่สองอย่าง ก็คือการเรียน กับ ดนตรี ถ้าหากว่าท้อ ก็อยากให้คิดว่า การที่คุณวุ่นวายกับชีวิตแบบนี้มันคุ้มแล้ว มันทำให้คุณเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนอื่น ที่นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ เพราะฉะนั้น มันไม่มีเหตุผลให้ท้อป่ะวะ ถ้าหากว่าพูดในเรื่องของ เลเวลการใช้ชีวิตให้มันคุ้มค่า คุณหน่ะทำคุ้มแล้ว
เป้าหมายสูงสุดในชีวิตพี่อาย คืออะไร
เป้าหมายสูงสุด คือ อยากอยู่ในวงการดนตรีนี่แหละ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เราทำได้ดีที่สุด แม้ว่าเราจะเรียนทางด้าน Arts มา แต่บางครั้งเราก็รู้ตัวเองว่า ทำไม่ได้ดีเท่าที่ควร โดนติเยอะ และแน่นอนว่ามีคนเก่งกว่าเราเยอะ ถ้าพูดในเรื่องของสายงานที่เราเรียนน่ะ แต่อย่างดนตรี คือ เรารู้ว่า เรามีจุดขายอะไร เหมือนกับว่าเราแม่งเห็นภาพตัวเอง ก็เลยอยากทำงานทางด้านนี้ หรือจะเป็นเบื้องหลังก็ได้ อยากเป็นประมาณ ผู้บริหารค่ายเพลง แบบกามิกาเซ่ ที่จริงเราชอบ กามิกาเซ่มาก พวกค่ายเพลงวัยรุ่นอะไรแบบนี้ เรารู้สึกว่าเพลงมันสนุก หรือจะแต่งเพลงโฆษณาก็ได้เช่นกัน แต่คือเราก็ยังเล่นดนตรีอะไรไม่เป็นเลย 555555
พี่อายคิดว่า งาน Arts กับ งานดนตรี มีความเหมือน ความต่างยังไงบ้าง
เราว่าดนตรีในทัศนะคติของเรา คือ เราอยากทำดนตรี ถ่ายทอดถึงความรู้สึก และจรรโลงจิตใจคนฟัง ส่วนงานด้าน Arts ก็อาจจะเป็นเชิงนั้น ประมาณว่าทำยังไงให้มันรู้สึกแล้วก็เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งมันเป็นเรื่องของการใช้ความสวยงามเพื่อเข้าหาผู้รับสาร และเป็นความสวยงาม เพื่อจรรโลงจิตใจสักอย่าง เราคิดแบบนั้น
สุดท้ายนี้อยากให้ฝากผลงานกันหน่อย
ตอนนี้มีซิงเกิลเพลง YOU ที่ทำกับ คาสิโนโทน เป็นเพลงญี่ปุ่นผสมไทยเนื้อหาก็ตามวรรคแรกที่เป็นภาษาไทย และเร็วๆนี้ก็จะปล่อยเพลงของ ญาณิน เป็นเพลง อะคูสติก ชื่อว่าเพลง ไม่มีสิ่งใดไม่ชัดเจน ยังไงก็ขอฝากด้วยน่ะคะ
เพื่อนๆสามารถติดตามเรื่องราวของพี่อาย ญาณินเพิ่มเติมได้ที่
Social Media : Facebook , Instagram
Writer : Plowhy
Photographer : Ongart Ketudom