สาวน้อยผู้มีพลังเสียงที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ที่มีผลงานทั้งการ cover และแต่งเพลงขึ้นเองในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบเธอ ศิลปินเดี่ยวหญิงที่มาพร้อมเสียงกีตาร์ทำนองช้า ๆ เหงา ๆ ที่เริ่มการแต่งเพลงจากความรู้สึกและความรักในเสียงดนตรีของเธอ เรากำลังพูดถึงเธอคนนี้ อาย ญาณิน เจ้าของเสียงเศร้าทรงเสน่ห์ที่วันนี้เราจะมาพูดคุยทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น
ช่วยแนะนำตัวกับเพื่อนๆ ชาว Lookbook หน่อยค่า
สวัสดีค่ะ ชื่อ ญาณิน พันธัย ชื่อเล่นชื่อว่าอาย ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขานิเทศศิลป์ อายุ 20 ปี ค่ะ จากรูปลักษณ์ภายนอกและผลงานที่ออกมาทำให้คนส่วนมากกลัวเราและคิดว่าเราเป็นสายดาร์กสายหม่น แต่เราก็ยอมรับนะว่าก็มีบ้าง แต่อีกบุคลิกหนึ่งเป็นคนไม่ค่อยรู้เรื่อง หัวช้า ตามคนไม่ทัน งงๆ ชอบอะไรตลกๆ ลุยๆ สนุกๆ เรียกว่าขัดกับคาแรคเตอร์ที่คนส่วนมากเข้าใจเลยก็ว่าได้
อายเริ่มร้องเพลงตั้งแต่เมื่อไรคะ ?
ร้องเพลงตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ เอิ่ม..น่าจะอนุบาล3 ก็ชอบลงประกวดแบบเนียนๆ ทำเป็นไม่อยากร้องแต่ก็ลงจนได้ แล้วก็มาช่วง ป.3ก็จะร้องพวกเพลงลูกทุ่ง พอมา ม.ต้นก็นั่นแหละค่ะ เกาหลีก็มา ส่วนหลังจากนั้นนี้ก็มีแนวร็อค โตมาอีกก็ขยายแนวทางที่เราสนใจเรื่อยๆ ร้องทุกแนวแล้วก็ร้องตั้งแต่เด็กๆ แต่ตอนเด็กๆ ก็ร้องเพลงแบบคนปกติทั่วไปที่ไม่ใช่ญาณินแบบนี้ ฮ่าๆ
แนวเพลงของอายเรียกว่าเป็นสไตล์ไหน
ก็คงเป็นอะคูสติคเบาๆ เพราะส่วนมากก็มีแค่กีตาร์ตัวเดียว แต่ในอนาคตถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เป็นแนว Folksong ที่มีเพอร์คัชชั่นที่เราชอบ บวกกับเครื่องดนตรีแถบอินเดีย มีกลิ่นอายความเป็นพื้นบ้านก็น่าสนใจดี
ศิลปินคนไหนที่อายถือเป็นแรงบรรดาลใจของอาย อายมีเพลงๆ ไหนที่ฟังแล้วไม่เคยรู้สึกเบื่อ
ศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจของอายไม่มีชัดเจนเป็นคนคนขนาดนั้น ส่วนมากอายเก็บดีเทล เก็บกิมมิกที่เราชอบของแต่ละคนมารวมๆ กัน แต่ที่ชัดเจนก็เห็นจะมี Florence จาก Florence and the machine แล้วก็พี่ ริค วชิรปิลันธิ์ นี่แหละค่ะ นอกจากนี้ก็มีศิลปินแถบอินโดนีเซียที่มีกลิ่นความโหยหวนบ้างอย่างวง The Trees & The wild ซึ่งเราก็ชอบและก็ได้รับอิทธิพลจากศิลปินฝั่งน้ันมาบ้างเหมือนกัน , ส่วนเพลงที่เราชอบ ชอบตั้งแต่ ป.6 ตอนนี้ก็ยังชอบ คือเพลง 현실의 현실 จากวง Nell ค่ะ วงโปรดตลอดกาลของเรา
อายคิดว่าเสน่ห์ของอายอยู่ที่อะไรถึงทำให้มีแฟนเพลงและมีคนติดตามผลงานของเรา
ก็คงจะเป็นการเลือกเพลงกับความโหยหวนมั้งคะ ฮ่าๆ คือเพลงที่เราเลือก cover มักเป็นเพลงที่เราชอบ และมันคงบังเอิญที่หลายๆ คนก็คงจะชอบเหมือนกัน คืออายเป็นมนุษย์หม่นๆ ชอบเสพทุกข์นิยม แล้วก็คงจะมีคนประเภทแบบเราเยอะมั้ง เลยสื่อสารกันถึง
เสียงเพราะเป็นเอกลักษณ์แบบนี้เคยผ่านเวทีการประกวดอะไรมาบ้างหรือเปล่าเอ่ย
อายมีวงร็อคค่ะ เป็นวงของตัวเอง เพราะฉะนั้นการประกวดที่ผ่านมาก็จะเป็นแบบชาวร็อค ชาวGrunge ซึ่งไม่ใช่แบบโปรเจค ญาณินเลยค่ะ คนละขั้ว ฮ่าๆ ทุกคนต้องนึกไม่ออกแน่ๆ
ความฝันสูงสุดที่อายอยากจะทำในเส้นทางนี้คืออะไร
มีอัลบั้มที่เป็น masterpiece ของเรา ที่เราพอใจ มีมาตรฐานและคงมาตรฐานทุกครั้งที่มีการแสดง เพลงของเราต้องมีคุณภาพเสียงที่ดี ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีอะไรเป็นแบบที่กล่าวมาเลยค่ะ ฮ่าๆ และความฝันสูงสุดของเราอีกอย่างคงเป็นการได้ทำงานที่เกี่ยวกับดนตรีแบบนี้เป็นอาชีพหลักๆ เข้าถึงได้หลายกลุ่มแต่ไม่เสียความเป็นตัวเรา สร้างการจดจำและเป็นหนึ่งเดียวได้ อย่างวงคาราบาว พี่ปาล์มมี่ โมเดิร์นด็อก อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ ที่มีเพียงหนึ่งเดียวและเป็นที่จดจำ แต่เนื่องจากสมัยนี้มันคงจะยากซะหน่อย หากเราจะยึดสิ่งนี้เป็นอาชีพหลักของเรา มีหลายๆ คนเกิดและหลายๆ คนดับ แต่นั่นแหละค่ะ นี่คือความฝันสูงสุด
หากมีโอกาสอายอยากร่วมงานกับใครเป็นพิเศษไหมคะ และเพราะอะไรอายถึงอยากร้องเพลงกับเขาคนนั้น
อยากร่วมงานกับวง Mattnimare มากค่ะ ฮ่าๆ ยอมรับว่าติ่งวงนี้จริงๆ เพราะวงไทยหายากที่จะมีซาวน์แบบนี้ อารมณ์เพลงแบบนี้ เสียงร้องของนักร้องแบบนี้ คือครั้งแรกที่อายได้ฟังเพลงของพี่ๆ คือเหมือนโลกหยุดเลยค่ะ คือใช่ที่เราอยากฟังจริงๆ กับอีกวงคือ Greasy Cafe ค่ะ เพราะอย่างเวลาที่เราต้องการความทุกข์มาอยู่กับเราเนี่ย อายก็มักจะเปิดเพลงของพี่เล็กฟัง ก็คงจะดีถ้าได้ร่วมงานกับพี่ๆ สองวงนี้นะคะ
อยากให้อายฝากถึงคนที่มีความฝันอยากจะเป็นนักร้องเหมือนอายหน่อยคะ
สมัยนี้มันง่ายต่อการแสดงออกนะ เพราะมันมีโซเชี่ยล ใครที่มีของอยู่แล้วก็เริ่มทำเลยก็ไม่เสียหาย อย่างอายเนี่ย ถ้าอายรู้ว่าซื้อกีตาร์มาดีดมั่วๆ แล้วเกิดเป็นเพลงขนาดนี้ อายคงซื้อกีตาร์มาเล่นตั้งแต่ออกจากครรภ์มารดาแล้ว ฮ่าๆ ยังรู้สึกว่าเราเริ่มช้าไปด้วยซ้ำ ส่วนใครที่ชอบการรร้องเพลงแต่รู้ว่าเสียงตัวเองไม่ดีพอ ก็อยากจะบอกว่า มันไม่จำเป็นที่จะต้องร้องเพราะ ต้องมีเพาว์เวอร์ โปรเจคเสียงบลาๆๆหรอกค่ะ เพราะอายก็ทำไม่เป็น หาแนวทางการดีไซน์เสียงที่คิดว่ามีแค่เราที่เป็นผู้เริ่มทำดีกว่า หรือหาเทคนิคที่เอื้อต่อเสียงของเราค่ะ ถ้าเป็นสิ่งที่เรารักทั้งทีไม่ว่าใครจะมาตัดสินเรายังไงสุดท้ายเราเป็นคนตัดสินตัวเองมากกว่า ว่าจะท้อเก็บสิ่งที่คนพวกนั้นวิจารณ์เพื่อล้มเลิกในสิ่งที่เรารัก หรือจะช่างผู้คนเหล่านั้นและพิสูจน์ความมั่นคงที่มีต่อสิ่งที่เรารักต่อ แปลงคำวิจารณ์ให้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงคอยขับเคลื่อนตัวเราดีกว่า
ตอนนี้มีกำลังทำอะไรอยู่จะมีผลงานอะไรให้เราได้ติดตามบ้างคะ ถ้าอยากไปฟังอายร้องเพลงต้องไปที่ไหนบ้าง
ตอนนี้ขอเคลียร์เรื่องเรียนให้จบก่อนดีกว่าค่ะ หลังวันที่ 8 พฤศจิกายน (งานคอนเสิร์ต จิ้มไหล่ ) อายคงขอพักยาวสักหน่อย เนื่องจากสุขภาพไม่ดีเลยค่ะ ทำให้มีอุปสรรคต่อการร้องเพลง บวกกับงานในมหาลัยที่เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้ชีวิตเรารวนนิดนึง แต่ก็สนุกดีค่ะ พอพักกับตัวเองจนอิ่มแล้วเดี๋ยวมาลุยในสิ่งที่รักต่อส่วนงานเพลงเร็วๆ นี้จะมีผลงานกับพี่ตูน STOONDIO ค่ะ ฝากติดตามด้วย ส่วนเพลงส่วนตัวของเราก็มีเก็บไว้นะคะ รออารมณ์อยากปล่อยเพลงก็คงได้ฟังกันค่ะ :))
ฝากช่องทางการติดตามผลงานของอายให้กับเพื่อนๆ ชาว Lookbook หน่อยค่า
Fanpage : ญาณิน
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับมุมมองความรักในเสียงดนตรีของสาวมีสไตล์การร้องที่ไม่เหมือนใคร นอกจากจะพูดคุยทำความรู้จักกับเธอกันแล้ว Lookbook.th ยังนำผลงานเพลงเก๋ๆ ของเธอคนนี้มาฝากให้เพื่อนๆ เสพกันให้รื่นรมย์ จะไพเราะโดนใจแค่ไหนไปฟังกันเลย
