ภายใต้สัญลักษณ์นกอินทรีที่ผงาดขึ้นสูงอย่างไร้ขอบเขต นับเป็นเวลามากกว่า 40 ปีที่ Emporio Armani ได้นำเสนอความรื่นรมย์ของแฟชั่นที่ไร้กฎเกณฑ์แต่ยังคงไว้ซึ่งความกลมกลืนของรูปร่าง ความสมดุล และความสง่างามที่ไม่เย่อหยิ่งตามแก่นแท้ของอาร์มานี่สไตล์ ซึ่งโดดเด่นและแสดงถึงเอกลักษณ์อันหนักแน่นระหว่างโลกของสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะมีความแตกต่าง การแสวงหาความเบาสบาย ความลื่นไหลแห่งการตัดเย็บ และความนุ่มนวลในการเลือกใช้สียังคงเหมือนเดิม เสมือนจิตวิญญาณที่คอยเฝ้ามองอย่างกว้างขวางโดยไร้ขอบเขต ยอมให้ตนได้รับอิทธิพลจากสัญญาณและร่องรอยของวัฒนธรรมอันห่างไกล เพื่อหยิบมาวางอยู่ในตู้เสื้อผ้าที่อบอวนไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นคนเมืองอันทันสมัย ฤดูกาลนี้จึงเปรียบเสมือนการเริ่มต้นเดินทางในทะเลทรายแห่งห้วงจินตนาการ การก้าวผ่านโอเอซิสและจุดจบอันสว่างไสวเต็มไปด้วยสีสัน ทุกอย่างถูกผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างอิสระ
ความเฟมินีนถูกนำเสนอผ่านดีไซน์เข้ารูปช่วงเอว ไม่ว่าจะเป็นเดรส จั๊มสูท และกางเกงขายาวทิ้งตัว (fluid trousers) เสื้อเบลาส์ที่มาควบคู่กับกางเกงทรงขากว้าง (flowing trousers) ที่สร้างนิยามใหม่ของชุดสูทที่นุ่มสบายราวกับชุดนอน เสื้อโค้ทดัสเตอร์ (duster coats) และเสื้อคลุมพาร์กา (parkas) ที่มาพร้อมซิปอำพรางให้รูปร่างเพรียว ในขณะที่ผ้าทอแจ็คการ์ด (jacquard weaves) และลวดลายต่าง ๆ นำมาซึ่งความสนุกบนพื้นผิวสัมผัส เสื้อคลุมเบลเซอร์ (Blazers) ที่เบาสบายเสมือนเสื้อเชิ้ตมาพร้อมกระดุมแบบถัก (passementerie buttons) หรือซับในสีตัดกันแบบเสื้อแจ็กเก็ตตัวสั้น (petite jackets) รวมไปถึงการเล่นกับเนื้อผ้าโปร่งแสงและการเลเยอร์เพื่อลดขนาดกระโปรงที่ยาวขึ้น ผนวกกับผ้านิตที่มีเอฟเฟคยับ (crumpled effect) ส่วนในยามเย็นนั้นถูกเติมเต็มด้วยเลื่อมปักระยิบระยับโต้ตอบสายตา อีกทั้งยังมีเครื่องประดับที่เน้นความเบาสบายของเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะพร้อมสายพันหรือรูปทรงเลขาคณิต กระเป๋าคาดเอวขนาดเล็ก และหมวกปีกกว้าง
สำหรับคอลเลคชั่นของสุภาพบุรุษนั้นเปรียบเสมือนการค้นหาตัวตนแบบฉบับอาร์มานี่ ไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บอันนุ่มนวลของเบลเซอร์อันเฉียบคม รวมไปถึงความเบาบางของเสื้อเชิ้ตแจ็กเก็ตและเสื้อทูนิคทรงหลวมที่สามารถสวมทับกางเกงนอน ลูกเล่นที่ขัดกันเหล่านี้ก่อให้เกิดความแปลกใหม่ เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนผูกเน็คไทสุดคลาสสิกที่นำมาสวมกับกางเกงลายพริ้นต์ขายาวแบบทิ้งตัวและเบลเซอร์เข้ารูป ส่วนแจ็กเก็ตถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากผ้าลินิน ผ้าเจอร์ซีย์ ผ้าไหม และผ้าทอขนสัตว์ ซึ่งรองรับสัดส่วนร่างกายได้อย่างพอดี ผ้านิตลายพริ้นต์ที่ให้เอฟเฟคแทททูข้างลำตัว ในขณะที่ผ้าทอแจ็คการ์ดมอบผิวสัมผัสที่แตกต่างออกไป ผ้าเดนิมให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวด้วยกางเกงเทราเซอร์ทรงขาบาน อีกทั้งกางเกงขาสั้นอย่าง Shantung Bermuda shorts ที่ถูกจับคู่กับเสื้อผ้าไหมแบบฝอก รองเท้าเด๊กชูส์ (deck shoes) พื้นหนา รวมไปถึงรองเท้าสลิปเปอร์หนังอัดลาย (embossed leather) ในขณะที่กระเป๋าถูกดีไซน์ให้สามารถจุของได้เยอะและถือด้วยมือได้