Benzilla
Interview
ในปัจจุบัน หากพูดถึงวงการด้านศิลปะ งาน Arts จนกระทั่งอาชีพ Graphic designer ถือว่าเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมสำหรับคนรุ่นใหม่อย่างเราเลยก็ว่าได้ บางคนอาจจะเคยเห็นงานศิลปะตามกำแพง หรือในงานนิทรรศการต่างๆ แต่ใครจะรู้ว่า กว่าจะได้ผลงานมาแต่ละชิ้น ต้องทำอย่างไรบ้าง
วันนี้ lookbook.th จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับศิลปินท่านหนึ่งอย่าง Benziila Graphic Designer รุ่นใหม่ ที่มีผลงานมาให้เราได้ชมกันอยู่มากมายและในตอนนี้ คุณ Benzilla ก็มีผลงานล่าสุดมาฝากกันกับ “THE WALKING 3BALLS” หุ่นตัวเบิ้มที่มาพร้อมเรื่องราวความเบิ้มที่หัวใจ อย่ารอช้า งั้นเราไปทำความรู้จักกับเค้าเลยดีกว่า
ส่วนสไตล์การแต่งตัว ก็จะชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ หลวมๆ แต่ช่วงนี้จะชอบเสื้อที่มีกระเป๋าและจะใส่หมวกบ่อยเพราะขี้เกียจตัดผม (หัวเราะ)
ตอนเด็กๆ ผมเป็นเด็กที่ไม่ได้โดดเด่นมาก เป็นเด็กกลางห้อง ช่วงนั้นก็จะชอบขีดเขียน วาดรูป แต่เราก็วาดจริงจังนะ วาดเกมส์ให้เพื่อนเล่น ช่วงนั้นติดเกมส์ด้วย ก็กลายเป็นว่าเกมส์ที่เราเล่น ต้องออกแบบคาเร็คเตอร์ที่เยอะมาก เราก็เลยชอบเรื่องออกแบบคาเร็คเตอร์ คิดว่าชอบงานด้านออกแบบตั้งแต่ตอนนั้นแหละ
แต่พอเริ่มโตมาตอนมัธยม ม.ปลาย ก็จะไม่ค่อยสนใจเรื่องวาดรูป แต่จะมีบ้างที่เพื่อนมาให้วาดลายสักให้ นอกจากการวาดรูป เราจะเล่นดนตรี คือ ตั้งวงเล่น กับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนเลย
ส่วนเรื่องครอบครัว คุณแม่ก็จะเป็นคนเลี้ยงเป็นหลัก หรืออาม่าบ้าง ผมก็จะอยู่กับพี่น้อง แม่ก็จะคอยสนับสนุนกับสิ่งที่เราชอบทำมาตลอดครับ
พูดถึงเด็กหน้าห้องกับหลังห้อง เป็นเด็กประเภทไหน?
แรกๆ ก็เป็นเด็กกลางห้อง หลังๆ เริ่มจะถอยไปหลังห้อง แต่เราชอบเรียนหนังสือนะ อาจจะตั้งใจเรียนแค่วิชาที่ชอบ อันไหนไม่ชอบก็คือไม่เรียนเลย เพราะมันเรียนไม่รู้เรื่อง
อย่างวิชาภาษาอังกฤษ คือมันเป็น 2 ช่วง ถ้าตอนเด็ก ก็จะชอบภาษาอังกฤษกับวิทยาศาสตร์ ดวงดาว ดาราศาสตร์ รู้สึกว่ามันสนุก
ตอนเด็กๆ นี่จะโง่ประวัติศาสตร์มากเลย ไม่ชอบเรียน ไม่รู้เรียนไปเอาไปทำอะไร แต่พอโตมารู้สึกว่ามันสนุก ดูสารคดีก็เลยชอบ เมื่อเข้าเรียนมหาลัย ก็จะเริ่มสนใจอย่างอื่น ซึ่งความชอบมันก็จะเปลี่ยนไปตามอายุนั่นแหละครับ
รู้ตัวว่าชอบงานศิลป์ตั้งแต่ตอนไหน?
ตั้งแต่เด็กครับ อย่างที่บอกว่า ชอบวาดรูปเล่นแล้วรู้สึกว่าตัวเองทำได้ดี เพราะว่าเราอาจจะทำบ่อยกว่าคนอื่น ทำแล้วเราอิน อินมากๆ แต่พอตอนสอบเข้ามหา’ลัย เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราชอบมันมีให้เรียนมั้ย หรือมันมีให้เรียน แต่เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ เราไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่าเราชอบวาดรูปเล่น ครูแนะแนวเค้าก็ไม่รู้ พอสอบเข้าศิลปากร เราก็ไม่สอบนะ ไม่รู้เพราะอะไร สุดท้ายไปเลือกอันดับ 4 เป็น ม.กรุงเทพไว้ ซึ่งที่บ้านก็ไม่ได้มีเงินมากมาย แต่แม่ก็คอยสนับสนุน ก็เลยได้เรียน ม.กรุงเทพ คณะนิเทศศิลป์ พวกออกแบบ กราฟฟิค พอไปเรียนก็เลยรู้ว่าเราชอบจริงๆ เพราะตอนเด็กๆ ช่วง ม.ปลายเราเล่นดนตรี และก็เล่นสเก็ตบอร์ด ชอบโลโก้บนแผ่นสเก็ต ซึ่งจริงๆ มันเรียกว่ากราฟฟิคดีไซด์นั้นแหละ แต่เพิ่งมารู้อีกทีตอนเรียนมหา’ลัยแล้ว
ในกลุ่มจะมีคนที่ชอบวาดรูปอยู่หลายคน คนนึงก็จะแนวนึง แต่ละคนจะมีสไตล์ของตัวเอง
พอเราลองวาดก็วาดไม่ได้ ใจมันไม่ไป วาดแล้วไม่สนุก เราก็เลยหนักไปทางออกแบบด้วยแล้วก็วาดด้วย คิดว่าน่าจะชอบอะไรอย่างนั้นมากกว่า
ที่มาของชื่อ Benzilla
จริงๆ เปลี่ยนมาหลายชื่อแล้วหล่ะ แต่รู้สึกว่า Benzilla เหมือนชื่อมันง่าย เวลาเราออกแบบตัวอักษรตัว z มันเป็นตัวสุดท้ายพอดี เราชื่อ Benz ตัว z มันคือตัวสุดท้าย จึงรู้สึกว่ามันจะต้องมีอะไรต่อ เหมือนคิดชื่อล๊อคอิน อยากได้ชื่อที่มันพูดง่ายๆ เวลาพูดกับใครก็จำง่าย เวลาเขียนตัวหนังสือก็เขียนง่าย
สไตล์การวาดภาพของตัวเอง
จริงๆ เราก็ไม่รู้นะ รู้แค่ว่าเราวาดการ์ตูน แต่เราพยายามที่จะผสมกันกับงานกราฟฟิค อาจจะเป็นเพราะเราทำ 2 ด้านอยู่แล้ว และเราก็จะชอบพวก typography ก็อาจจะเรียกว่าเป็นสไตล์ pop art มั้ง ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ
ความแตกต่างการวาดด้วยมือกับการใช้โปรแกรม
เราว่าวาดด้วยมือมันส์กว่าเยอะ เร็วกว่าด้วย อย่างวาดในคอมมันเหมือนมีเส้นแบ่งอยู่ เหมือนมันไม่มีอยู่จริง มันเป็นแค่จอภาพ มันไม่เหมือนอิ๊งค์กับกระดาษ แต่เด็กรุ่นนี้อาจจะรู้สึกว่ามันไม่ต่างกันก็ได้
ก่อนจะมาเป็น Benzilla ทำงานอะไรมาบ้างคะ
งานประจำทำมาเยอะมาก แรกๆ เลยก็ทำบริษัทเล็กๆ ทีมออกแบบ 4-5 คน ก็ออกแบบโลโก้เป็นส่วนใหญ่ identity design จนหลังๆ ก็เปลี่ยนมาทำโฆษณา การทำงานก็คล้ายๆ อันเดิมนะ แต่อยู่ในบริษัทเอเจนซี่โฆษณา ทำมาจนถึงปัจจุบัน แล้วก็ลองย้ายมาทำในฝั่งดิจิทัล ตามยุคสมัย เราเองก็อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อ ก็เลยโยกตัวเองมาทางฝั่งนี้
อยากให้พูดถึงคาเร็คเตอร์ของผลงานหน่อยคะ
จริงๆ จะมีงานที่ช่วงหลังๆ วาดบ่อย จะเป็นพวกมนุษย์ต่างดาวที่เป็นเด็กชื่อว่า Three Ball อันนี้เราออกแบบวาดเล่นๆ นี่แหละ แต่ว่าเพื่อนสนิทเราคนนึงบอกว่ามันน่ารักดี แค่นั้นเองเราเลยคิดว่า มาคิดเรื่องให้มันดีกว่า คือความเป็นเด็กมันจะไม่รู้อะไรเลยเวลาตัดสินอะไร มันจะไม่มีอคติ เจ้าตัวนี้ก็เหมือนอย่างนั้น คือ มาจากดาวดวงอื่นที่ไม่รู้เรื่องของเรา และไม่รู้เรื่องของมนุษย์เลย แล้วมาอยู่ที่นี่มันก็จะมีความใส ไม่อคติ ไม่เข้าข้าง มันก็จะทำหน้าที่แทนเราในเรื่องความคิดเห็น ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจให้มี 3 ตาหรอก แต่พอวาดแล้วมันพอดีมือ เราก็เลยชอบวาด
คิดว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันส่งผลต่องานมั้ย
จะมีผลในเรื่องของการติดต่อสื่อสารมากกว่า เพราะจริงๆ ไม่ค่อยพึ่งเทคโนโลยีทำงานอยู่แล้ว มันก็แล้วแต่พวกงานกราฟฟิคที่มันต้องใช้คอม ก็จะมีพวกอุปกรณ์ เม้าส์ แต่ก็ไม่ค่อยมีผล จะมีผลก็ตอนที่ต้องการติดต่อกับลูกค้า โปรโมทงานยังไง หลังๆ ก็จะมาสนใจด้านงานวีดีโอ ก็อยากทำเหมือนกันนะ ก็เลยลองทำวีดีโอ เป็นผลงานของเราเก็บไว้ดู แบบพอผ่านไป 5 ปี มาเปิดดูก็จะรู้ว่าตอนนั้นเราทำงานยังไง ช่วงนี้ก็จะมีตัดต่อวีดีโอด้วย
เคยคิดที่จะเลิกวาดรูปมั้ยคะ
ไม่เคยคิดที่จะเลิกนะ มีแต่เบื่อ อาจจะเป็นเพราะเราไปอินถ่ายรูปแทน ถึงจะเบื่อยังไงเราก็กลับมาวาดอีกอยู่ดี ซึ่งงานอดิเรกของเราก็กลายเป็นงานประจำไปเลย
นอกจากงานออกแบบ เคยอยากลองทำอย่างอื่นไหม?
เคยอยากเป็นนักท่องเที่ยว ใจเราอ่ะชอบการท่องเที่ยว เมื่อก่อนจะมีรายการ raymac พี่เรย์ตอนหนุ่มๆ เราอยากเป็นแบบนั้นเลย ทุกวันนี้ก็ยังอยากทำแบบนั้นอยู่นะ แต่ความคิดเรื่องการเที่ยวเราก็เปลี่ยนไปตามวัย อย่างตอนเด็กๆ ก็จะชอบไปเที่ยวในเมือง ช๊อปปิ้ง แต่ตอนนี้ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นธรรมชาติหรืออะไรอย่างนี้บ้าง ก็เริ่มเข้าใจว่าคนมันมีหลายแบบจริงๆ
ช่วงนี้เห็นวีดีโอ DIY ด้วย
คือช่วงนี้ซื้อเสื้อผ้าพลาดบ่อย มันถูกดีก็เลยซื้อ แต่พอซื้อมาแล้วมันไม่สวย ก็เลยเอามาทำใหม่ แต่ก็เอาวิธีที่เราพอทำไหว เราทำเอาสนุก ใช้สีสกรีนเสื้อ ทำกางเกง ของเล่นก็เคยทำมาแล้ว แล้วก็เอามาอัดวิดีโอขณะที่ทำ
พูดถึงแบรนด์สตรีทที่ชอบหน่อยคะ
ชอบเยอะเลยนะ แต่ถ้าพูดถึงที่โตมาด้วยกันเลยนี่ก็ Bathing Ape อาจจะเพราะว่าเราชอบสไตล์เขา ไม่ดุมากแต่ก็ไม่เด็กมาก แล้วเราชอบฮิปฮอปอยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกว่ามันมีความพอดี แล้วความเจ๋งอีกอย่างคือ เค้าออกแบบอะไรที่หลายคนไม่ทำ อย่างเทป แปรงสีฟัน มันไม่ได้อยู่ในกรอบที่ว่าฉันเป็นแบรนด์เสื้อผ้า แต่มันกระจายออกไปว่าฉันคือไลฟ์สไตล์แบรนด์จริงๆ แล้วของบางอย่างมันบ้าบอมาก ยิ่งหลังๆ นี่ถ้ามองไปทาง superme เค้าทำกองอิฐคือมันออกไปอีกเลเวลแล้ว
เห็นว่าเคยมีแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง
เมื่อก่อนก็ทำกับแฟนนี่แหละ แต่ตอนนี้จะเปลี่ยนแล้วชื่อ Bomber เป็นแนวจี๊ดๆ สีสดๆ ตอนนั้นก็ทำเป็นเสื้อยืด กระเป๋า แต่หลังๆ เราไม่มีเวลา เราทำงานประจำด้วยก็เลยพักไป แต่ตอนนี้กำลังจะเริ่มโปรเจ็คแบรนด์ใหม่ ตอนนี้ก็กำลังคุยกันอยู่ครับ
ของสะสมในบ้านที่อยู่ในบ้าน
พวกนี้ซื้อมาตั้งแต่ยังไม่มีบ้าน สะสมมาเรื่อยๆ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจมากกว่านี้ แต่มันก็จะมีทั้งของแฟนกับของเรา แรกๆ ก็ซื้อเล็กๆ อย่างหลังๆ เราชอบ MAVAL ก็อยากซื้อนะแต่งบก็ไม่พอ ก็เอาเท่าที่เราจะซื้อได้ หรือหนังสือผมกับแฟนจะอ่านกันคนละแนว ผมจะชอบอ่านพวกประวัติคน ว่าเขาเป็นยังไง เจออะไรมา เราก็ซื้อมาและสะสมไว้
คิดว่าตัวเองมีพัฒนาการเรื่องงานศิลป์มากน้อยแค่ไหน
ส่วนใหญ่สไตล์เราไม่ได้เปลี่ยนหรืออาจจะเพราะว่ามันเปลี่ยนไม่ได้ เรียกว่าพัฒนา คือมันจะมียุคนึงที่เราจะวาดอะไรแล้วไม่ใส่ดีเทลเลยเพราะว่าเราเป็นคนออกแบบโลโก้ การวาดรูปเราก็เลยตัดออกหมด เอาแบนๆ เรียบๆ สักพักนึงเรารู้สึกเบื่อ มันไม่มันมือมันเรียบเกิน หลังๆ เราก็เลยคิดว่าเราไม่ต้องไปจำกัดมันดีกว่า วาดตามที่เราสนุก พัฒนาการก็น่าจะเป็นการซึมซับอะไรได้ดีขึ้น เวลาไปเห็นอะไรมา เรามีเครื่องกรองที่ดีขึ้น งานส่วนใหญ่จะมี 2 แบบคือ 1 งานที่เราวาดไม่ได้เกี่ยวกับใครเลย เราก็จะตามใจเรา แต่งานที่มีคนจ้าง หรือมีลูกค้าเราก็ต้องคุยกับเค้า แต่ส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็เพราะว่าเค้าอยากได้ความเป็นเรานี่แหละ แล้วมันก็จะง่ายหน่อย
สายตาเป็นอุปสรรคในการทำงานไหม?
ไม่ค่อยมีนะ ผมเป็นคนตาบอดสีแต่ว่าคนจะเข้าใจว่าตาบอดสีคือจะเห็นเป็นสีขาวดำ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น มันแค่ไม่แน่ใจว่านี่สีม่วงหรือสีน้ำเงิน แต่ก็ไม่มีปัญหาหรอก เพราะเรามีคอมพิวเตอร์ ก็จิ้มดูได้ แต่ตอนเรียนมหา’ลัย มีครั้งนึงที่พลาด อาจารย์โลเล สอนวาดรูปแล้วให้ทำขาวดำ เราก็ซัดสีชมพูไปเลย เพราะคิดว่ามันเป็นสีเทา แล้วไปเถียงกับ อาจารย์เราก็เฟล แล้วมีหลังๆ ตอนใกล้จะจบ อาจารย์คนนึงมาบอกว่า เบ้นไม่ต้องกังวลหรอก ทำงานให้เหมือนปิโทเฟนที่เค้าหูหนวกแต่ว่าทำได้เพราะมีอุปกรณ์ช่วย เราก็เลยคิดว่าไม่น่ามีปัญหา แต่เวลาที่ทำงานออกแบบให้ลูกค้าก็ต้องเช็คก่อน
คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง และถ้าได้ไปวาดเมืองนอกอยากไปที่ไหน
เรายังห่างไกลมากเลย ไม่เคยคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วนะ แต่มันก็พออุ่นใจว่าเรายังไปได้ แค่นั้นเอง แต่ว่าเป้าหมายเราค่อนข้างไกล ก็ค่อยๆ ทำ เอาความสนุกเป็นที่ตั้ง
ส่วนถ้าได้ไปวาดเมืองนอก เราอยากไปวาดกำแพงที่โตเกียว กำแพงใหญ่ๆ หรือจริงๆ ไม่ต้องใหญ่ก็ได้ แค่ขอพื้นที่น่ารักๆ สวยๆ ก็พอ
อยากให้พูดถึงผลงานล่าสุดอย่าง #iwillkeepwalking
คือผมได้มีโอกาสร่วมงานใน #iwillkeepwalking ครับ ซึ่งจะพูดถึงเรื่องการกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่มีความกล้าที่จะลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อให้สังคมดีขึ้นและก้าวไปข้างหน้า งานนี้จะจัดแสดงที่เอมควอเทีย สามารถเข้าไปชมและถ่ายภาพได้เลยครับ
คิดยังไงกับงานศิลป์ในไทยทั้งตอนนี้และในอนาคต
ถ้าให้พูดถึงงานศิลป์ทั้งหมดเราก็ไม่รู้นะเพราะมันกว้างเกินไป งานของเราจะอยู่ในแนวกึ่งงานยุคใหม่ มันก็เริ่มมีคนทำเยอะขึ้น มีให้เรียนด้วย คนก็เริ่มรู้จักว่ามันมีสิ่งนี้ และก็เริ่มมีพวกมีเดียทาง youtube ซึ่งมันกว้างขึ้นแน่นอน คนทำเยอะขึ้น แต่คนที่จะทำจริงจังมันก็ไม่แน่นอน เพราะว่าบางคนเค้าอยากทำแค่เอาสนุก เห็นหลายคนแล้วพอเรียนจบไปก็ไปทำอย่างอื่น เขาอาจจะรู้ว่าไม่ได้ชอบขนาดนั้น แต่มันก็ดีนะ คนทำเยอะขึ้นมันก็ต้องมีคนเก่งเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว
อยากฝากอะไรถึงวัยรุ่นที่ชอบงานศิลป์
มันจะมี 2 ประเภท คือคนที่ชอบดูชอบเสพ กับคนอยากทำ คือประเภทแรกนี่ไม่มีปัญหาหรอก เพราะเค้าดูด้วยความบันเทิง แต่คนชอบทำก็จะแยกออกมาอีกว่า ทำเพื่อสนุกหรือทำเพื่อจะทำเป็นอาชีพ อย่างเราคืออันหลัง มันก็ต้องยอมแลก บางคนอยากทำนู้นทำนี่ แต่ก็ไม่ยอมแลก ยังอยากเที่ยวอยู่ บางทีมันก็ต้องตัดใจถ้าอยากจะได้ตรงนี้มันก็ต้องเสียงอย่างนึงไป
สุดท้ายมาฝากผลงานกันหน่อยคะ
ตอนนี้ผมจะเน้นไปที่เฟสบุ๊คแฟนเพจชื่อ BenzillaBKK และ Instagram : benzillabkk นี่จะอัพบ่อยสุดเลย เพราะมันสะดวก นอกจากนี้ก็จะมี Youtube ชื่อเดียวกันเลย อันนี้จะเป็นลักษณะของการทำงานเรามากกว่า ยังไงก็ขอฝากติดตามด้วยครับ ขอบคุณครับ
Writer : Plowhy
Photographer : Chayang Chayangkul