หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯนั้นมีมากมาย ให้เลือกแตกต่างกันไป แต่ถ้าหากเป็นสถานที่ในอดีตหล่ะ วันนี้ lookbook เลยอยากจะชวนเพื่อนๆย้อนวันวานกับสถานที่เก่าแก่ ไปพร้อมกับหนุ่มสาวฮิปเตอร์คู่นี้ ศรี และ หมอก ที่มีไลฟ์สไตล์เหมือนกัน คือ ชอบการถ่ายรูป และวันนี้ทั้ง 2 คน ก็ได้นัดกันไว้ว่าจะออกไปถ่ายรูปเล่นสถานที่ ที่ออกแนววินเทจและคลาสสิคนิดๆ คิดว่าใครหลายคนคงรู้จัก แต่อาจจะหลงลืมกันไป ในขณะที่รถติดขนาดนี้จะเอารถยนต์ไปคงไม่สะดวก และเพื่อความเพลิดเพลินในการออกไปเที่ยวชิวๆแบบนี้ หมอกเลยอาสานำรถคู่ใจอย่าง scoopy i club 12 เป็นเพื่อนร่วมทางในวันนี้
วันนี้ที่เราทั้งคู่วางแผนกันไว้ คือ จะออกไปถ่ายรูป บริเวณที่มีความเป็นวินเทจและคลาสสิค เพราะเราชอบสถานที่ที่เวลาเราถ่ายรูปออกมาแล้วมันดูมีสไตล์และถ้าทำให้นึกถึงวันวานได้ยิ่งดี และที่แรกที่เราจะพาไปถ่ายรูปเล่นกันคือ สถานีดับเพลิงบางรัก แต่ก่อนจะเข้าไปถึงสถานีดับเพลิง ตรงทางเข้า ซอย เจิญกรุง 36 ก็มีมุมสวยๆไว้ให้ได้ถ่ายรูปเล่น แล้วก็แมทซ์กับชุดที่เราใส่มากันวันนี้อีกด้วย ว่าแล้วเราก็จอดรถ ลงไปเก็บภาพสักนิดดีกว่า
ก่อนที่เราจะมาที่นี่กันเราก็ได้ศึกษามานิดหน่อยว่า สถานีดับเพลิงบางรัก เป็นอาคารเก่าแก่ ตัวตึกเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมนีโอ-ปัลลาเดียน (Neo-Palladion) ศิลปะโรมัน+คลาสสิค อายุกว่า 120 ปี อยู่ในซอยเจริญกรุง 36 เรียกได้ว่าเป็นสถานที่โดนใจของวัยรุ่นยุคใหม่และคนที่ชื่นชอบในการถ่ายรูป เพราะตัวอาคารจะออกแนวสไตล์วินเทจ เก่าๆ นิดหน่อย ทำให้ได้ความรู้สึกย้อนไปถึงอดีตเลยก็ว่าได้จะบอกว่า ถึงตัวอาคารจะดูเก่า แต่ก็ดูคลาสสิคไม่เบาเลย
ด้วยความอาร์ตของสถานที่แห่งนี้ ทำให้ตึกร้างกลายเป็นสถานที่ที่ใครหลายๆ คน นิยมไปถ่ายภาพกัน รวมถึงพวกเราด้วย และแน่นอนเราจะมาถ่ายรูปสถานที่วินเทจแบบนี้ ผมก็คงต้องเอา กล้องฟิล์ม ที่คลาสสิคไม่แพ้กับสถานที่ มาลองเล่นกันบ้างแล้วหล่ะ
เมื่อได้รูปสวยๆกันแล้ว งั้นเราไปลุยสถานที่ต่อไปกันเลยดีกว่า กับ เสาชิงช้า
จริงๆถ้าหากพูดถึงใจกลางกรุงเทพฯในปัจจุบัน หลายคนคงจะนึกถึงย่านสยามสแควร์ สุขุมวิท แหล่งร้านอาหาร หรือแหล่งรวบรวมแฟชั่นมากมาย ศรีเองก็คงนึกถึงแบบนั้นเหมือนกัน แต่หากเป็นในอดีตเท่าที่เรารู้มา ของใจกลางกรุงเทพฯ นั้นอยู่ในย่านเสาชิงช้า เพราะถือเป็นจุดศูนย์กลางของพระนครที่ถูกกำหนดขึ้นตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งในวันนี้เราทั้งคู่ก็คิดไว้ว่าจะไปเดินเล่น และถ่ายรูปมุมสวยๆชมเมืองในย่านเสาชิงช้ากัน โดยจะเห็นได้ว่าบริเวณรอบๆจะมีอาคารเก่าๆมากมาย ถือว่าถูกใจเรา 2 คนมาก งั้นเราไปหามุมชิคๆถ่ายรูปเก็บไว้ดีกว่า
ไม่ใช่มีแค่บริเวณเสาชิงช้าเท่านั้น ที่จะทำให้เราได้มุมสวยๆกลับไป มาถึงใจกลางเมืองกรุงเทพฯทั้งที ก็ต้องพากันเดินเล่นซักหน่อย เพราะบริเวณมีตึกเก่าๆ สไตล์วินเทจมากมาย ไว้ให้ผู้ที่มาเที่ยวได้เก็บภาพกัน แต่นี่เราก็เดินทางมาสักพักแล้ว ท้องเริ่มร้อง งั้นเราไปหาร้านอร่อยๆนั่งพักกันก่อนดีกว่า ร้านที่เรียกได้ว่าโด่งดังในย่านนี้ คงไม่พ้น มนต์นมสด ว่าแล้วเราก็ไปกันเลยดีกว่า
ร้านมนต์ นมสด ถือเป็นตำนานความอร่อยของร้านขนมปัง-นมสด ตั้งอยู่ใกล้ๆกับศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ใกล้เสาชิงช้า ที่เปิดขายนมสดและขนมปังมากว่า 40 ปี ถ้าเพื่อนๆคนไหนแวะมาถ่ายรูปจากเสาชิงช้าเสร็จแล้ว สามารถเดินมาร้านมนต์ นมสดได้เลย ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลนัก ซึ่งร้านตั้งอยู่ถนนดินสอ พระนคร เดินทางสะดวกเลยค่ะ
เมื่ออิ่มท้องแล้ว นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว งั้นเราไปลุยกันต่อเลยดีกว่า กับสถานที่สุดท้าย ที่คิดว่าหลายคนน่าจะรู้จักกันดี กับ หัวลำโพง แต่ก่อนจะไปอย่าลืมใส่หมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัยกันนะคะ พร้อมแล้วเราก็ลุยกันต่อเลยดีกว่า
มาถึงที่สุดท้ายแล้ว กับ หัวลำโพง
บริเวณ สถานีรถไฟหัวลำโพง แห่งนี้ นอกจากจะเป็นสถานีรถไฟไว้บริการความสะดวกแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ถูกใจใครหลายๆคน ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปหรืออาจะกำลังเดินทางขึ้นไฟแต่ก็ขอเก็บรูปไว้สักสอง สามรูป ก็ว่ากันไป เพราะบริเวณสถานีรถไฟหัวโพง ถือเป็นสถานที่วินเทจอีกแห่งหนึ่ง ที่ทำให้เราได้ความรู้สึกกับบรรยากาศเก่าๆ ด้วยรถไฟที่ถูกสร้างมาในอดีตและยังนิยมใช้กันจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรจะต้องไปสักครั้งในชีวิต
เสร็จจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ก็เย็นพอดี งั้นวันนี้เราพักไว้แค่นี้ดีกว่า เพราะดูแล้ว เราคงได้ภาพสวยๆกลับบ้านไปแบบที่เรียกว่าเลือกลงโซเซียลไม่ถูกกันเลยทีเดียว ไว้ว่างๆเดี๋ยวเราจะพาไปเที่ยวอีก แต่จะเป็นที่ไหน อย่าลืมรอติดตามกันนะคะ
และที่สำคัญ ที่ทำให้เราได้สนุกกับการเดินทางเดินและได้เก็บภาพบรรยากาศสวยๆในวันนี้ คงเป็นเพื่อนร่วมเดินทางอย่าง Scoopy i Club 12 คันนี้ ที่ไม่ว่าเราจะพกของไปมากแค่ไหนก็สามารถเก็บของได้พอดีกับกล่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ และสามารถเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางที่ไม่ว่าเราจะแวะที่ไหนก็สามารถเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
Writer : Plowhy Model : Cheeranan juikong , Narongchai tranwan Photographer : Chayang Chayangkul