การถ่ายภาพ อาจจะเป็นเรื่องง่าย แต่การเป็นช่างภาพมืออาชีพ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด กว่าจะได้ภาพมาหนึ่งภาพนั้น เกิดจากอะไรหลายๆอย่าง ทั้งโจทย์ที่ได้มา จินตนาการ และความรู้สึก ใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ หรือ คิดอยากจะเป็นช่างภาพมืออาชีพ วันนี้ lookbook มีเรื่องดีๆจะมาแชร์ให้เพื่อนๆได้มาเปิดมุมมองใหม่กัน กับช่างภาพที่มีผลงานมากมาย อย่าง คุณบูม ” กฤษฎา หัสภาค ”
อย่างแรก เรามาทำความรู้จักกับคุณบูม กันก่อนดีกว่า
สวัสดีครับ ผม กฤษฎา หัสภาค หรือ เรียกกันง่ายๆคือ คุณบูม หรือพี่บูม นั่นเอง 555 การศึกษาผมเรียนจบจากเอกเทคโนโลยีการถ่ายภาพและภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี คือที่เรียนมาจะเน้นการถ่ายหนังเป็นหลัก การถ่ายภาพนิ่งจะเรียนเป็นแค่พื้นฐานเท่านั้น ปัจจุบันก็ทำงานเป็นช่างภาพครับ ส่วน life style ของผม ส่วนมากก็จะทำแต่งาน แล้วก็เลี้ยงสุนัขครับ ฮ่าๆ
จุดเริ่มต้นของการถ่ายภาพเกิดจากอะไรคะ
ผมเริ่มต้นจากการได้เห็น ได้ฝึกงาน ทำให้ได้เปิดกว้างมากขึ้น โดยจุดเริ่มต้นคือการได้ลองผิดลองถูก ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาถ่ายภาพจริงจัง ผมเคยถ่ายวิดีโอ ตัดต่อ ทำมาหมดทุกอย่าง จนรู้ว่าตัวเองนั้นอยู่กับอะไรได้นานและไม่นาน และช่วงที่ได้ฝึกงานในสตูดิโอ ก็ทำให้ผมได้เจออะไรเยอะขึ้น ได้ลองถ่ายภาพ และ จัดแสงในสตูดิโอด้วยตัวเอง ทำทุกอย่างที่เป็นกระบวนการถ่ายภาพในสตูดิโอ ทำให้ตอบโจทย์ตัวเองได้ว่าชอบงานถ่ายภาพมาก และทำให้ผมมั่นใจว่าตัวเองชอบถ่ายด้านแฟชั่น ตั้งแต่นั้นมาผมก็ฝึกถ่ายภาพมาตลอดจนได้ทำงานเป็นช่างภาพประจำนี่แหละครับ
แต่ไม่เพียงแค่นั้น ผมจะเป็นคนชอบดูภาพจากหนังสือ ชอบเปิดหนังสือน่ะ แต่ไม่อ่าน จะดูรูปซะส่วนใหญ่ แล้วถ้ารูปไหนสวยมากๆผมก็จะเอามือลูบอยู่แบบนั้นแหละ 555 โรคจิตป้ะ
เริ่มการทำงานสายอาชีพช่างภาพจากที่ไหนคะ
ผมเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยช่างภาพ แบกหามไฟ ทำตามที่ช่างภาพอยากได้ ผมทำอย่างนั้นมาเป็นระยะ 7 เดือน แต่ระหว่างที่ผมยังไม่ได้เป็นช่างภาพประจำ ผมก็จะทำ Portfolio ส่งไปที่ Lips Magazine อยู่เรื่อยๆถึง 1 ปี ถึงได้ทำงานเป็นช่างภาพประจำอยู่ที่ Lips Magazine ปัจจุบันผมอยู่กับ lips Magazine มาได้ 6 ปีแล้ว และนั่นคือโรงเรียนฝึกที่ดีที่สุดของผมเลยก็ว่าได้
พี่บูมชอบถ่ายภาพแนวไหน
ชอบทุกแนวครับ เพราะการเป็นช่างภาพเราต้องลองฝึกถ่ายภาพได้ทุกแนว ทุกสไตล์ก่อน มันสำคัญมากนะครับ การที่เราตั้งใจจะเป็นช่างภาพหรืออยากถ่ายภาพให้ออกมาสวยนั้น ผมคิดว่าเราจะต้องฝึกจากการถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกก่อนหรืออาจะศึกษาดูงานของคนอื่นบ้าง เพื่อมาพัฒนาตัวเอง แล้ววันนึงจะรู้เองว่าเราถนัดงานถ่ายงานแบบไหน ส่วนคนอื่นที่มองรู้ว่า งานชิ้นไหนเป็นงานของพี่นั้น จะดูได้จาก ภาพนั้นจะไม่ดาร์กจัด จะออกโทสีเทา ส่วนใหญ่พี่จะเน้นเรื่องการจัดแสงแบบละมุนๆ ความครบของแสงซะมากกว่า
ความยากของการถ่ายภาพอยู่ตรงไหนคะ
ผมคิดว่าเป็น “การคิด” ว่าเราจะถ่ายอะไร การจินตนาการ ที่สำคัญคือการทำงานร่วมกันและการสื่อสารความต้องการให้เข้าใจร่วมกัน ว่าจะให้งานออกมาในทิศทางไหน ซึ่งในอาชีพช่างภาพอย่างผม บางทีตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ ต้องร่วมกันแชร์ไอเดียกับทีมงานเพื่อให้ออกมาทิศทางเดียวกัน และช่างภาพไม่ได้มีหน้าที่ถ่ายภาพเพียงอย่างเดียว แต่ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย
ลองบอกขั้นตอนการทำงานของช่างภาพมาคร่าวๆหน่อยได้มั้ยเอ่ย
ถ้าสมมติว่าได้เสื้อผ้ามาชุดนึง หรือได้โจทย์มา เราก็จะมาตีโจทย์เสื้อผ้า ดูว่าชุดนั้นเป็นยังไง เหมาะกับสถานที่แบบไหน อากาศอย่างไร แล้วก็เข้าไปปรึกษากับ stylist เพื่อมาแชร์ไอเดียกันว่าจะให้งานออกมาทิศทางไหน แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการเริ่มงาน ว่าเริ่มต้นจากอะไร งานที่ทำเกิดจากความอยากทำ หรือ ได้โจทย์มา แค่นั้นครับ
ตั้งแต่ที่ได้ใช้กล้อง Nikon1J5 มาตลอดระยะเวลา 1 เดือน เป็นยังไงบ้างคะ
ผมรู้สึว่ากล้อง nikon1j5 พกพาง่ายด้วยขนาดที่เล็ก มีน้ำหนักเบา สามารถใส่กระเป๋าหรือสะพายข้างได้ ทำให้รู้สึกสะดวกสบายในการมาเที่ยวพักผ่อน เพราะเราจะได้มากังวลเรื่องของหนักหรือสัมภาระเยอะเกินไป และยังเป็นตัวช่วยในการ snap มุมต่างๆได้อีกด้วย โดยปกติแล้วผมจะแบกกล้องตัวใหญ่ไป แต่เมื่อถึงเวลาเร่งรีบหรือเจอมุมที่เราอยากจะถ่าย กว่าจะหยิบกล้องขึ้นมาทีภาพนั้นก็อาจจะหายไปแล้ว แต่กล้อง nikon1j5 สามารถทำให้ผมเก็บภาพในช่วงเวลาสั้นๆได้หลายภาพเลยครับ
หยิบมาปุ๊ป กดได้เลย เป็นกล้องที่ต้องการ snap ไวๆ เดินเล่นอยู่แล้วเจอมุมสวยๆอยากถ่ายก็สามารถกดได้เลย อย่างเช่นรูปนี้ผมชอบสวนทางกัน ระหว่างคุณป้า กับสิ่งที่อยู่ในภาพ
ส่วนสีของภาพนั้น ผมชอบถ่ายภาพขาวดำ เพราะในสีดำถ้าดูดีๆแล้วจะมีเนื้อดีเทลเหมือนกับภาพของกล้องฟิล์ม ที่ทำให้ภาพดูสนุกและมีชีวิตขึ้น และสามารถเล่าเรื่องราวได้ดี ดูชัดมากขึ้น
พี่บูมมีเทคนิคการถ่ายภาพประจำตัวบ้างมั้ยคะ
เทคนิคประจำตัวหรอ … ไม่มีนะ ไม่มีสูตรตายตัวอ่ะ เพราะเวลาถ่ายรูปหรือพี่ชอบรูปไหน มันเกิดจากความรู้สึกล้วนๆ บางทีช่วงเวลาสั้นๆแล้วเราสั่งให้นิ้วกดชัตเตอร์ได้ จับจังหวะได้ จัดแสง จัดมุมได้ มักจะใช้ความรู้สึกในการตัดสินว่าแสงนี้ดี มุมนี้สวยนะ หรือถ้าเราได้เห็นภาพหรืองานถ่ายภาพผ่านตามาเยอะๆ ความรู้สึกมันจะบอกเราเองว่า รูปนี้สวย รูปดีโดน
วางเป้าหมายในอนาคตไว้ยังไงบ้างคะ
ทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองอยู่ในสายอาชีพนี้ให้นานที่สุด เพราะอาชีพช่างภาพก็คล้ายๆอาชีพนักแสดง มันจะมีช่วงเวลาของมัน ผมเลยตั้งใจไว้ว่าจะรักษาคุณภาพของงานตัวเองให้น่าสนใจและให้มีคุณภาพให้นานที่สุด
อยากให้ฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นช่างภาพหน่อยค่ะ
อยากให้มีมาตรฐานในตัวเอง เพราะถ้าจะเป็นช่างภาพประจำหรือทำอาชีพช่างภาพโดยเฉพาะเลย จะต้องแม่น ต้องเป๊ะระดับนึง และควรทำให้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดี โดยไม่ต้องพึ่ง การแต่งสี จากโปรแกรมอื่นๆ จะทำให้เราเป็นมืออาชีพมากขึ้นครับ
สามารถติดตามผลงานพี่บูมได้จากที่ไหนคะ
Facebook เลยครับ ชื่อ Kritsada Hasapark ถ้ามีงานถ่ายภาพ สามารถเรียกผมได้นะครับ ผมยังรับงานถ่ายอยู่ครับ ฮ่าาาๆๆๆ
การเป็นช่างภาพ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดจริงๆ แต่ถ้าคนไหนตั้งใจหรือชอบการถ่ายภาพม๊ากมาก อาจจะลองเริ่มต้นจากการถ่ายภาพเป็นงานอดิเรก ลองผิดลองถูกไปก่อน แล้วไม่นานเพื่อนๆก็อาจจะได้เป็นช่างภาพมืออาชีพในอนาคตก็ได้ ใครจะไปรู้
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ ร้านสวยๆบรรยากาศดีๆ อย่าง Coffee Craftsman ที่ให้เราได้ไปเก็บภาพสวยๆกันค่ะ
Writer : Plowhy
Photographer : Nutdanai Duangdaw